เมื่อวันที่ 1 เม.ย. จากกรณีตำรวจ สภ.นาสัก นำหมายจับเข้าจับกุม นางวันเพ็ญ หรือ เจ๊อ้วน อายุ 64 ปี ในข้อหา “เป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ใช้บังคับ ขู่เข็ญ หรือจ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันอำพรางซ่อนเร้นเพื่อให้ทำลายศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุการตาย” และ “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมต่อสิ่งใด ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ในคดีสั่งอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาส สามีของตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าของสนามชนไก่ใน อ.สวี จ.ชุมพร

วันนี้ที่สภ.นาสัก จ.ชุมพร ลูกน้องคนสนิทได้นำอาหารมาเยี่ยมเจ๊อ้วน ก่อนจะเปิดเผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกัน เจ๊อ้วนบอกว่าเมื่อคืนนอนหลับสบาย ไม่เครียด ไม่กังวลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เจ๊อ้วนยังฝากบอกญาติโกหมาสว่าให้ช่วยดูแลจัดงานศพแทนด้วย และเจ๊อ้วนจะไม่ขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล ไม่ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอลดโทษ ไม่ยื่นฎีกาในชั้นศาลทั้งหมด และบอกว่า ปลงแล้ว ยอมรับผลกรรม ขอให้ญาติทุกคนไม่ต้องมาประกันตัว

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวเจ๊อ้วนไปศาลจังหวัดหลังสวนเพื่อฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งระหว่างที่เจ๊อ้วนเดินไปขึ้นรถ ได้กล่าวว่า ฝากขอโทษไปยังญาติของโกหมาสทุกๆ คน สาเหตุที่ตัดสินใจบงการฆ่าโกหมาสเพราะฟิวส์ขาดที่โกหมาสขู่ฆ่าตนกับลูกสาว ต่อจากนี้ไปก็มีเพื่อนแล้ว หลังต้องอยู่คนเดียวมาหลายปี

ล่าสุดตำรวจสืบสวนภาค 8 ได้จับกุม นายสมชัย อายุ 62 ปี หนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่าเผาอำพรางศพ “โกหมาส” มาส่งที่ สภ.นาสัก พร้อมแจ้งข้อหาตามหมายจับ ” ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมซ่อนเร้นอำพรางศพ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง” โดยนายสมชัย อ้างว่า ตนเองแค่ไปรับศพไปอำพรางเท่านั้น

สำหรับคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีการจับกุมอีก 3 คน คือ นายสุทีป นายพฤหัส และนายวีรภัทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัว