สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่านายบาสซิรู ดิโอมาเย ฟาเย สาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเซเนกัล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำอายุน้อยที่สุด คือ 44 ปี และเป็นการเปลี่ยนผ่านขั้วการเมืองจากขวาเป็นซ้าย เป็นครั้งแรกในรอบนานกว่า 1 ทศวรรษ หรือนับตั้งแต่รัฐบาลในสมัยของประธานาธิบดีมากี ซาล ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2555 จนถึงวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีบาสซิรู ดิโอมาเย ฟาเย ผู้นำเซเนกัล และภริยาทั้งสองคน คือ นางมารี โคเน ฟาเย (คนซ้าย) และนางอับซา ฟาเย (คนขวา)

นอกจากนี้ จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเซเนกัล ที่จะมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งถึง 2 คน เนื่องจากฟาเยมีภรรยาสองคน ตามอุดมการณ์ของมุสลิม ที่อนุญาตการมีภรรยาได้มากถึง 4 คน

ทั้งนี้ ฟาเย เป็นอดีตนักโทษการเมือง และได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำล่วงหน้า ก่อนถึงกำหนดการลงคะแนนเลือกตั้งเพียง 10 วัน กล่าวว่า ตัวเขาคือ “ทางเลือกจากขั้วอำนาจเก่า” และให้คำมั่น “การประนีประนอมระดับชาติ” และการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพ

นายมากี ซาล อดีตประธานาธิบดีเซเนกัล อำลาตำแหน่ง ที่กรุงดาการ์

เดิมที เซเนกัลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคงที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นประเทศแห่งเดียวในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งยังไม่เคยเผชิญกับการรัฐประหาร ต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นซาลประกาศเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายปี

จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญเซเนกัลมีคำพิพากษา เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ต้องเกิดขึ้นก่อนการหมดวาระของซาล ซึ่งดำรงตำแหน่งมาแล้วสองสมัย.

เครดิตภาพ : AFP