สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่านายบาสซิรู ดิโอมาเย ฟาเย สาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเซเนกัล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำอายุน้อยที่สุด คือ 44 ปี และเป็นการเปลี่ยนผ่านขั้วการเมืองจากขวาเป็นซ้าย เป็นครั้งแรกในรอบนานกว่า 1 ทศวรรษ หรือนับตั้งแต่รัฐบาลในสมัยของประธานาธิบดีมากี ซาล ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2555 จนถึงวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/AFP__20240402__34N82NK__v2__HighRes__TopshotSenegalPoliticsFaye.jpg)
นอกจากนี้ จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเซเนกัล ที่จะมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งถึง 2 คน เนื่องจากฟาเยมีภรรยาสองคน ตามอุดมการณ์ของมุสลิม ที่อนุญาตการมีภรรยาได้มากถึง 4 คน
Senegal's????????new President, Bassirou @DiomayeFaye, now at the Presidential Palace in Dakar meeting former President Macky Sall for the official transfer of power. pic.twitter.com/KWzUBauLvq
— Kennedy Wandera (@KennedyWandera_) April 2, 2024
Excerpts of Senegal's????????President Bassirou Diomaye Faye's inauguration Speech. #SenegalDecides
— Kennedy Wandera (@KennedyWandera_) April 2, 2024
On March 24, 2024, the Senegalese people voted in calm and serenity, making me the 5th President of the Republic of Senegal, in the first round, with 54.28% of the valid votes cast.
I… pic.twitter.com/lxvjgK8Wdl
ทั้งนี้ ฟาเย เป็นอดีตนักโทษการเมือง และได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำล่วงหน้า ก่อนถึงกำหนดการลงคะแนนเลือกตั้งเพียง 10 วัน กล่าวว่า ตัวเขาคือ “ทางเลือกจากขั้วอำนาจเก่า” และให้คำมั่น “การประนีประนอมระดับชาติ” และการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/AFP__20240402__34NC3HX__v1__HighRes__SenegalPoliticsSall.jpg)
เดิมที เซเนกัลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคงที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นประเทศแห่งเดียวในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งยังไม่เคยเผชิญกับการรัฐประหาร ต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นซาลประกาศเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายปี
จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญเซเนกัลมีคำพิพากษา เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ต้องเกิดขึ้นก่อนการหมดวาระของซาล ซึ่งดำรงตำแหน่งมาแล้วสองสมัย.
เครดิตภาพ : AFP