เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าวัดบ่อ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ยุบตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ ว่า ล่าสุดทีมผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ตินโดยวิธี HDD รอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมระบบไฟฟ้า จากถนนชัยพฤกษ์ ต.บางตะไนย์ กับฝั่ง ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำทีมโดย ว่าที่ร.ต.วรกฤษ อาษาสะนา อายุ 36 ปี วิศวกรผู้ควบคุมงานของบริษัทฯ ผู้รับเหมาการไฟฟ้านครหลวง

ระทึก! ถนนแจ้งวัฒนะทรุดตัว แฉขุดท่อร้อยสายไฟฟ้าลงดิน จยย.พ่อ-ลูกรอดหวุดหวิด

โดยเมื่อมาถึงได้ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาถนนทรุดกับ นายสมศักดิ์ ลามอ รอง นายกเทศบาลนครปากเกร็ด ว่าที่ร.ต.ภาณุพงศ์ บรรดาศักดิ์ สมาชิกเทศบาลนครปากเกร็ด พ.ต.ต.ฐาปนพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวง ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องสาเหตุและวิธีแก้ไข ประมาณ 30 นาที ซึ่งทุกหน่วยงาน ไม่อนุญาตให้ทางผู้รับเหมาเปิดเส้นทางจราจรได้ และจะทำการปิดถาวรจนกว่าจะแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อย เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยต่อประชาชนในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง และไม่ไว้ใจในการทำงานของผู้รับเหมา โดยจะให้ทางผู้รับเหมาทำการตรวจสอบก่อนในเวลานี้ และจะทำการซ่อมแซมถนนอย่างละเอียด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อใจโครงการแล้วที่เข้ามาทำถนนแล้วมีปัญหา ทางเทศบาลนครปากเกร็ดจะทำการประชุมและต้องให้โครงการเข้ามารับผิดชอบ ห้ามทำงานชุ่ย ให้นำอุปกรณ์ขนของเข้ามาตรวจถนนทันที และให้สูบน้ำออกจากบ่อถนนที่ทรุดให้หมด ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการทำถนน ตนจะสั่งปิดถนนไม่ให้ประชาชนใช้ถนนเด็ดขาดเนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะถนนทางโค้งมีรถใหญ่เข้ามาตลอดเวลา ถ้าทำชุ่ยๆแล้วให้ประชาชนสัญจรมาจะทำให้ถนนพังอีกรอบและทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ ตนได้คุยกับทางผู้รับเหมา ได้รับปากไว้ว่าจะทำถนนเบื้องต้นและจะให้จราจรกลับมาใช้ได้ใน 3 วัน

ว่าที่ ร.ต.วรกฤษ กล่าวว่า ตนจะรับผิดชอบโดยการประสานงานนำเครื่องจักรเข้ามาทำถนนเบื้องต้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโพรงเพราะจะทำให้ใหม่ ทำให้พื้นถนนเต็ม คืนนี้จะขอเวลาทั้งคืน ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนขึ้นไป จะทำให้เสร็จบางอย่าง แก้ไขเรื่องท่อระบายน้ำทิ้ง ให้เข้าลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ถ้าวางท่อระบายน้ำตรงไหนได้ก็จะวางก่อน จะใส่ชิพพายรอบๆถนน ทีแรกจะทำการซ่อมถนนเพื่อเปิดให้สัญจรได้ แต่ทางท่าน รอง นายก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่อนุญาตเนื่องจากกลัวประชาชนได้รับอันตราย ซึ่งท่อที่ได้รับความเสียหายมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร จะต้องรื้อดูทั้งหมด เพราะท่อที่อยู่ข้างใต้จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดจะไม่ทำงานชุ่ย

ว่าที่ ร.ต.วรกฤษ กล่าวอีกว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการทำงาน ที่มีการดึงท่อร้อยสายไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นท่อ พีพีอี ขนาด 1,000 มม. มาโผล่ฝั่งปากเกร็ด ทำให้ทรายที่ผสมกับน้ำตรงจุดนี้ไหลออกไปช่วงที่ดึงท่อ และในตอนกลางคืนไม่มีรถวิ่งจึงไม่ทรุดตัว พอช่วงเช้ามีรถขนาดใหญ่ทำให้เกิดการยุบตัว ส่วนน้ำที่เห็นเป็นน้ำจากท่อน้ำทิ้งซึ่งเป็นน้ำเสีย ตอนนี้อยู่ระหว่างนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการ เพื่อสำรวจความเสียหาย ซ่อมท่อน้ำทิ้งที่หัก จากนั้นจะทำการบดอัดและเทปูน พร้อมเทถนนราดยางแอสฟัสทับให้กลับคืนสู่สภาพเดิม