จากกรณีความสูญเสีย ศ.ดร.ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี อายุ 55 ปี คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอด ระยะที่ 4 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.67ที่ผ่านมา โดยทราบว่าเป็นผลจาก PM2.5 ซึ่งถือเป็นคณาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รายที่ 4 ที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอด ต้นเหตุจากฝุ่น PM2.5 นั้น

สุดอาลัย! มะเร็งปอดคร่า ‘อาจารย์ มช.’ เผยสูญเสียเป็นรายที่ 4 เชื่อสาเหตุจากฝุ่นPM2.5

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 ที่ศาลาปฏิบัติธรรม วัดสวนดอกพระอารามหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ศ.ดร.ระวิวรรณ วันสุดท้าย ก่อนเคลื่อนร่างมอบให้ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่ง ศ.ดร.ระวิวรรณ ได้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรืออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ ท่ามกลางครอบครัว ญาติสนิท และคณะอาจารย์จากคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมพิธีและแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ ศ.ดร.ระวิวรรณ เป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก

ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นพิธี นายจิตรกร โอฬารรัตน์มณี สามี ได้มอบหนังสือที่ระลึกอนุสรณ์ในงานบำเพ็ญกุศลศพของภรรยา พร้อมโปสการ์ดภาพวาดดอกไม้ ที่ลูกสาวคนโต วาดให้กับแม่ขณะรักษาตัวใน รพ.

นายจิตรกรเปิดเผยว่า ภรรยาได้เริ่มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อประมาณ 1 ปี ตอนแรกคิดว่าภรรยาป่วยเป็นลองโควิด แต่ช่วงหนึ่ง มีอาการไอ และมีเลือดติดออกมา จึงตัดสินใจเข้าตรวจสุขภาพที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งหลังแพทย์ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพิ่มเติม ก็พบว่าสาเหตุที่ทำให้ภรรยาป่วยเป็นมะเร็งปอด มาจาก PM2.5 ทำให้เกิดยีนกลายพันธุ์จนกลายเป็นมะเร็งปอด และลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ซึ่งยีนส์กลายพันธุ์ตัวนี้มักจะเกิดผู้หญิงเอเชีย ทำให้อาการป่วยทรุดลง จนท้ายที่สุดนำไปสู่การเสียชีวิต

ทั้งนี้อยากฝากถึงรัฐบาลว่าจริงๆ พบปัญหา PM 2.5 มานานแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เกิดผลกระทบกับเราอย่างชัดเจนเราจึงไม่ให้ความสำคัญ แต่เมื่อวันหนึ่งถ้าคนในครอบครัว หรือตัวเราเองป่วยเป็นมะเร็งปอด เราจะรู้ทันทีว่า PM 2.5 มันเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงมาก อยากให้กรณีของภรรยา เป็นกรณีศึกษาว่าหลังจากนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าใส่ใจในการแก้ไขปัญหามากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดมันอาจจะไม่ทำให้ปัญหาหมอกควันหายไป แต่หวังว่าให้ลดความรุนแรงลงได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี.