เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 ที่ จ.นครนายก ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสิทธิชัย อิ่มจิตร สจ. เขต 1 อ.ปากพลี จ.นครนายก ว่ามีควายตกลูกแฝด หาดูยาก ตั้งแต่เกิดมาในพื้นที่นี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 6 ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี พบกับ นายเดชา ฉ่ำศิริ ส.อบต.ท่าเรือ อ.ปากพลี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของควาย ซึ่งนายเดชา ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ควายชื่อแม่พิมพ์ ซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ ใกล้ตกลูก ได้มีอาการซึม และมีท่าทีเหมือนอ่อนเพลีย ไม่ยอมลุกเดิน ช่วงเช้าจึงได้รีบแจ้งหมอให้รีบมาดูอาการ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะแม่พิมพ์ นั้นเป็นควายแก่อายุ 14 ปี ซึ่งเกิดเมื่อปี 2553 และเมื่อมีอายุครบ 3 ปี จึงเริ่มตั้งท้องแรกในปี 2556 จากนั้น ทุกๆ 10 เดือน ได้ตั้งท้อง และให้ลูกมาทุกปี ปีละ 1 ตัวติดต่อกัน รวมทั้งสิ้น ตั้งแต่ปี 2556 – 2566 รวม 10 ตัว แต่ในปีนี้ 2567 แม่พิมพ์กับสร้างความฮือฮา ตกลูกแฝดมาพร้อมกัน 2 ตัว
ซึ่งกว่าจะหาหมอมาช่วยแม่พิมพ์ได้นั้น ต้องโทรหา หมอถึง 3 คน เนื่องจากว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ และวันหยุดยาวต่อเนื่อง 3 วัน หมอได้เดินทางไปต่างจังหวัดกันหมด ซึ่งตนก็ได้พยายามติดต่อหมอมาจนได้ เนื่องจากว่าแม่พิมพ์ มีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก ซึ่งตนเองก็แปลกใจ เนื่องจากแม่พิมพ์ตกลูกมาแล้วกว่า 10 ตัว ปกติทุกครั้ง แม่พิมพ์จะออกลูกตรงเวลา ทุกๆ 10 เดือน และเมื่อถึงเวลาจะตกลูกเองโดยที่ไม่ต้องช่วย แต่ในครั้งนี้ เวลาเลยมากว่า 5 เดือน รวม 15 เดือน และอยู่ๆก็มีอาการซึม นอนหมดแรงไม่ยอมลุก
เมื่อหมอเดินทางมาถึง ก็ได้ตรวจดูอาการ และได้บอกกับตนว่า ต้องช่วยเอาลูกแม่พิมพ์ออกแล้ว ตนกับหมอจึงได้เอามือล้วงเข้าไปดูว่าลูกแม่พิมพ์นั้นอยู่ในลักษณะไหน เมื่อล้วงไปก็ตกใจ เนื่องจากโดยปกติแล้ว เวลาลูกจะออกจะต้องหันหน้าออก แต่เมื่อล้วงเข้าไปกับเจอหลัง จึงเป็นสาเหตุที่แม่พิมพ์ ไม่สามารถออกลูกได้เอง ตนกับหมอก็พยายามช่วยกันดึงออกมาจนได้ ในเวลา 13.27 น.
เมื่อตัวแรกออกมา แม่พิมพ์ก็ได้ลุกขึ้นทันทีและรีบมาเลียลูกของตัวเอง ด้วยสัญชาตญาณแม่ลูก ซึ่งในตอนนั้นทุกคนก็ไม่ได้รู้ว่ายังคงมีอีกตัวอยู่ในท้องแม่พิมพ์ ระหว่างที่กำลังยืนดูอาการของแม่พิมพ์กับลูกอยู่ ก็ได้หันไปเจอหัวอีกตัวได้โผล่ออกมา จากนั้นตัวที่ 2 ก็ได้ไหลพรวดออกมาเอง โดยที่ไม่ต้องช่วยดึงออกเหมือนตัวแรก ซึ่งได้สร้างความฮือฮา กับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ชาวบ้านต่างพากันขอโชคลาภ และบอกว่าเป็นสิริมงคล อย่างมาก ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นเพศผู้ มีรกควายออกมา 2 รก และทั้ง 2 ตัว มีสภาพที่แข็งแรงดี สามารถลุกขึ้นเดินได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวได้ถามนายเดชา ว่าได้ตั้งชื่อหรือยัง นายเดชา บอกว่ายังไม่ได้ตั้ง แต่คิดว่าจะตั้งว่า ทองหยิบกับทองหยอด ซึ่งนายเดชา ยังได้บอกอีกว่า ตนนั้นได้สอบถามคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ อายุกว่า 80 ปี ว่าเกิดมาเคยเห็นควายแฝดหรือไม่ ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ได้บอกว่า เกิดมาเห็นควายมานับพันตัว เนื่องจากในพื้นที่ ต.ท่าเรือ นั้นมีอาชีพทำนากันเป็นหลัก ตนเองก็เห็นควายออกลูกมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นควายออกลูก 2 ตัวเลย นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยเห็น
จากนั้น นายเดชา ได้พาผู้สื่อข่าว ไปดูแม่พิมพ์กับลูกๆ ในคอก ก็พบว่า แม่พิมพ์นั้นได้คลอเคลียกับลูกทั้ง 2 อย่างใกล้ชิด ซึ่งนายเดชาฯบอกว่า ยังห่วงอยู่เหมือนกันว่าแม่พิมพ์จะมีนมพอให้ลูกทั้ง 2 ตัว กินหรือไม่ เพราะแม่พิมพ์เองก็แก่แล้ว อายุ 14 ปี ออกลูกมากว่า 10 ตัวแล้ว รวม 2 ตัวนี้ ก็ เป็น 12 ตัว ซึ่งชาวบ้านเมื่อทราบเรื่องก็ทยอยพากันมาดู แม่พิมพ์กับลูก และพยายามตีเลขกันไปต่างๆนาๆ เพื่อหวังโชคลาภงวดที่จะถึงนี้.