เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 64 พ.ต.อ.อาภากร วิรุปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย ปลัด จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนสงครามและระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ โจมตีจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ริมถนนจารุเสถียร เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.บาดเจ็บ 2 นาย แถมมีชาวบ้านถูกลูกหลงบาดเจ็บอีก 3 คน เหตุเกิดในช่วงคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่เกรงว่าเป็นแผนลวงเจ้าหน้าที่ออกมาลอบสังหาร จึงสนธิกำลังลงพื้นที่ช่วงเวลาดังกล่าว

ที่เกิดเหตุพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตกอยู่ที่กองทรายตรงข้ามจุดตรวจ 1 ลูก เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ และยังพบสลักนิรภัย 3 อัน ส่วนบริเวณริมถนนหน้าจุดตรวจ มีร่องรอยระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่คนร้ายขว้างใส่จุดตรวจ 3 ลูก สภาพพื้นถนนเป็นรูโหว่ และบริเวณกำแพงจุดตรวจมีรอยกระสุนปืนเอ็ม16 และอาก้า รวมทั้งสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุนทั้งแถบ ส่วนบริเวณหอคอยมีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายยิงถล่มจนพรุนเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีบ้านพักชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดตรวจ ถูกลูกหลงกระสุนปืนยิงฝาผนังและกระจกหน้าต่างบ้านพังเสียหาย และมีกองเลือดจำนวนหนึ่ง ห่างจุดเกิดเหตุไปประมาณ 3 กม. บริเวณถนนพาดทางรถไฟพบเสาเตือนสัญญาณรถไฟหักโคน 1 ต้น และมีร่องรอยระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊บเหล็กทรงกลมน้ำหนัก 5 กก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารพังเสียหายกระจายเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่จึงบันทึกและเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง 4 นาย ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณจุดตรวจดังกล่าว มีคนร้ายประมาณ 8 คน อาวุธครบมือ อาศัยความมืดแอบมาทางป่าตรงข้ามจุดตรวจโดยอาศัยกองทรายเป็นที่กำบังก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มหอคอย และจุดตรวจหลายชุด เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ที่อยู่ในจุดตรวจหนีตายใช้บังเกอร์ปูนหน้าจุดตรวจเป็นที่กำบัง พร้อมใช้ปืนประจำกายยิงปะทะตอบโต้กลุ่มคนร้าย แต่คนร้ายใช้กลยุทธ์ยิงปืนสงครามเข้าใส่สลับขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ แต่โชคดีหน้าฐานเจ้าหน้าที่ขึงตาข่ายไว้ ทำให้ระเบิดไปป์บอมบ์ตกที่บริเวณฐานตาข่ายริมถนนใช้เวลาประมาณ 10 นาที

กระทั่ง ร.ท.วิรุจ นพรัตน์ ผบ.ร้อย ทพ.4814 ซึ่งตั้งฐานอยู่วัดโต๊ะเด็ง นำกำลังมาสนับสนุนโดยรถหุ้มเกราะวีว่า เมื่อมาถึงบริเวณถนนพาดทางรถไฟ ถูกคนร้ายซุ่มกดชนวนระเบิดหวังลอบสังหารแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุทำให้คนร้ายล่าถอยไป ตรวจสอบพบว่า ส.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปาหิน นายหมู่โทมะนาวี กอเดร์ ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ และยังมีชาวบ้านถูกสะเก็ดกระจกหน้าต่างบาดเจ็บอีก 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็กหญิงวัย 1 ขวบ รวมอยู่ด้วย จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี สาเหตุเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดี วางแผนลวงเจ้าหน้าที่ออกมาลอบสังหารรายวัน