เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ร.ต.อ.สุภัคสิษฐ บัวบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่เชิงเขา หมู่ 15 ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.เพชรบูรณ์ และมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุเป็นทางเดินไปไร่ข้าวโพด พบศพนายระ คำเมือง อายุ 68 ปี นอนหงายเสียชีวิต ลักษณะถูกของมีคมฟันจนคอศีรษะขาดออกจากร่าง มีกองเลือดแห้งติดพื้นดินจำนวนมาก ใกล้กันมีรถ จยย. ฮอนด้า สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ และมีสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้ตัวสีขาว นั่งเฝ้าร่างผู้ตายไม่ยอมห่างไปไหน
สอบถาม นายพัง คงอินทร์ อายุ 66 ปี ผู้พบศพเป็นคนแรก เล่าว่า ขณะที่กำลังขี่รถ จยย.ออกจากไร่ เพื่อจะกลับบ้าน สังเกตเห็นรถ จยย.สีแดง ล้มอยู่ จึงเข้าไปดู ก็พบมีคนนอนเสียชีวิตสภาพศีรษะขาดหลุดจากคอ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ทั้งนี้ในบริเวณดังกล่าวมี นายวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ชายสติไม่ดี อาศัยอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านี้เคยถือมีดขู่ที่จะทำร้ายตัวเอง รวมทั้งยังเคยใช้ปืนยาวไทยประดิษฐ์ยิงใส่ตนมาแล้ว แต่โชคดีที่ไม่โดน ไม่เช่นนั้นอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็เป็นได้
ต่อมาตำรวจได้ไปปิดล้อมกระต๊อบไม้หลังดังกล่าว โดยที่ประตูถูกล็อกจากด้านในจึงตะโกนเรียกเป็นเวลานาน แต่ไม่มีการตอบรับ จนต้องตัดสินใจได้พังประตูเข้าไปข้างใน พบนายวัน นอนอยู่ภายใน และพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่มีคราบเลือดติดอยู่ แต่ไม่ยอมลุกจากที่นอน จึงต้องใช้วิธีอุ้มออกมา โดยที่นายวันขัดขืนดื้อดึงไม่ยอมให้การใดๆ พูดแต่เพียงว่าจะขอนอนอยู่ตรงนี้ ก่อนนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ส่วนภายในกระต๊อบไม้ พบปืนไทยประดิษฐ์ 3 กระบอก มีด และขวานหลายด้าม โดยที่มีดด้ามยาวเล่มหนึ่ง มีคราบเลือดติดอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นจากการสอบสวน นายวัน ยังให้การไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้าน นางวรรณา คำเมือง อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ทุกๆ วันสามีจะนำอาหารไปให้สุนัขและไก่ที่ไร่เป็นประจำ บางวันก็นอนค้างที่ไร่ ส่วนนายวัน ตนและสามี ก็เคยนำข้าวปลาอาหารไปให้กินเป็นประจำ เพราะสงสารที่อยู่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง สำหรับสาเหตุก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าเมื่อสองวันก่อน นายวันได้ใช้ปืนยิงไก่ของสามีตนจนตาย สามีจึงเข้าไปต่อว่าแต่ก็ไม่ได้ด่ารุนแรง จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป กระทั่งวันก่อนสามีได้เล่าให้ฟังว่า นายวันได้มายืนจ้องหน้าสามีอยู่ข้างๆ กระต๊อบ แต่ไม่พูดอะไร ซึ่งตนก็ได้เตือนให้สามีระวังตัว กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายดังกล่าว
