พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ได้มีการนัดประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 3/ 2567 ในวันอังคารที่  9  เม.ย. 67 โดยมีวาระสำคัญที่ต้องพิจารณา 3 เรื่อง คือ โครงการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและเพื่อสังคมในพื้นที่ขาดแคลน หรือยังขาดบริการที่ทั่วถึง ของแผนปฏิบัติการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและเพื่อสังคมประจำปี 2565 ฉบับที่ 3 (แผนยูโซ่ ฉบับที่ 3) มูลค่า 6,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 กรอบใหญ่คือ เพื่อบริการสาธารณสุข เพื่อการศึกษา และเพื่อความมั่นคง เรื่องที่ 2 คือ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดนทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม ฉบับ 4 (พ.ศ. 2566-2568) (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) และเรื่องที่ 3 คือ ระบบการแจ้งเตือยภัยฉุกเฉินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (เซลล์ บรอดแคสต์)

พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร

รายงานข่าวจาก กสทช. ระบุว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งที่ผ่านๆ มา ในเรื่องแผนยูโซ่ ฉบับ 3 ที่ประชุมบอร์ด ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้มาหลายครั้ง รวมถึงการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่เป็นการประชุมครั้งที่ 7/2567 (ต่อเนื่อง) บอร์ดก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน แม้จะมีการสั่งให้ทางสำนักงาน กสทช. กลับไปจัดทำข้อมูลใหม่ในกรอบเพื่อบริการสาธารณสุข ทั้งประเภทของ รพ.สต. และพื้นที่ภาคต่างๆ มีจำนวน รพ.สต. เท่าใด และงบประมาณที่จะสนับสนุนในแต่ละแห่ง เป็นต้น แต่เมื่อกลับมานำเสนอ ทางบอร์ดบางคนเห็นว่า ข้อมูลยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ที่มีรายละเอียดชัดเจนขึ้น ทางบอร์ด กสทช. จึงให้กลับไปทำข้อมูลใหม่ และทำการนัดประชุมพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะหลังที่ยืดเยื้อมานาน

สำหรับในเรื่อง เซลล์ บรอดแคสต์ นั้น เป็นนโนบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทยมีระบบเตือนภัยฉุกเฉินใช้งานภายในปีนี้ ทางบอร์ด กสทช. จึงต้องเร่งพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณจากองทุนยุโซ่ ที่จะสนับสนุนโดยเบื้องต้น ทางผู้ให้บริการมือถือ (โอปอเรเตอร์) ต้องใช้งบประมาณในการพัฒนาระบบรายละ 400 ล้านบาท ในระยะ 3 ปี โดยมีแนวคิดจะให้หักจากงบที่ต้องนำส่งกองทุนยูโซ่ประจำปี และงบประมาณพัฒนาระบบในส่วนของภาครัฐประมาณ 400 ล้านบาท ก็จะขอสนับสนุนจากกองทุนยูโซเช่นกัน รวมงบประมาณของโครงการ เซลล์ บรอดแคสต์ จะอยู่ที่ประมาณ 1,100-1,200 ล้านบาท