เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภาพรวมสถานการณ์โควิดประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,754 ราย, ผู้ป่วยสะสม 1,615,229 ราย, หายป่วยกลับบ้าน 12,473 ราย, ผู้ป่วยกำลังรักษา 115,233 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 3,144 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 709 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 123 ราย เสียชีวิตสะสม 16,756 ราย ยอดฉีดวัคซีนสะสม (28 ก.พ.-30 ก.ย.) รวม 53,784,812 โด๊ส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็นวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 32,577,832 ราย, วัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 19,838,574 ราย และวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 1,368,406 ราย

พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการติดเชื้อในกรุงเทพฯ และปริมณฑล​ ค่อนข้างลดลงอย่างต่อเนื่อง​ แต่ ศบค. มีความเป็นห่วงการติดเชื้อโควิดในพื้นที่ ​4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้​แก่​ ยะลา​ นราธิวาส​ ปัตตานี​ และสงขลา​ ที่เห็นได้ชัดว่ามีผู้ป่วยอาการหนักและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น​ รวมทั้งใน จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และสตูล​ จึงขอเน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทย​ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่ เฝ้าระวังการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีรายงานพบคลัสเตอร์​ต่างๆ​ เกิดขึ้น​อย่างต่อเนื่อง ทั้งศูนย์ฝึกกีฬา​ฟุตบอล​เยาวชน​ ที่ จ.ลพบุรี​, แคมป์คนงานก่อสร้าง ที่ จ.ปราจีนบุรี และยังมีคลัสเตอร์​งานศพ​ ล่าสุด​ คือ​ จ.อุบลราชธานี​ และศรีสะเกษ​, ศูนย์​ฝึกอาชีพ​คนพิการ​ จ.เชียงใหม่​, โรงงาน​ที่ จ.​ตาก​, ล้งผลไม้​ จ.จันทบุรี​ และแรงงานประมง​ จ.ระยอง.