การกลับมาครั้งสำคัญของพีโอแคร์ ด้วยแคมเปญโฆษณาที่ได้คุณ “ก้อย อรัชพร” มาเป็นพรีเซนเตอร์ บอกเล่าจุดขายที่โดดเด่นของ กันแดด PO CARE HYAC+ เพื่อตอกย้ำความแคร์ จริงใจ ให้สมกับเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดระดับตำนาน ณ ซึ่งในปี 2565 ตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 9.45 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 18.4% โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กันแดด 3.24 พันล้านบาท และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี SPF อยู่ที่ 6.20 พันล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวจากแสงแดด

อีกทั้งในประเทศไทย พบว่า ในช่วงฤดูร้อนมีการค้นหาครีมกันแดดสูงกว่าในช่วงฤดูอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้ม ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์กันแดด (Google trends, 2022) ประกอบกับปัญหาระดับโลก อย่างภาวะโลกร้อน ที่ปัจจุบันมีผลรายงานจาก องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มมาอยู่ที่ 1.4 องศาเซลเซียส หมายถึงโลกจะร้อนเพิ่มมากขึ้น และในปี 2023-2024 นี้ จะร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

คุณนิพา เดชมา กรรมการผู้จัดการ บริษัทพี.โอ.แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “นอกจากที่ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และชุมชน ต้องตระหนักรู้เรื่องการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างเข้มข้นมากขึ้น ทุก ๆ คนก็ต้องเผชิญกับรังสี UV และความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดครีมกันแดดเติบโตขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน”

พัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดแบบรู้ลึกรู้จริง เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ และสื่อสารอย่างจริงใจคือกลยุทธ์สำคัญ

“แบรนด์พีโอแคร์ได้การยอมรับมาอย่างยาวนานกับกันแดดทาตัว เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก กันแดดหลอดส้มในตำนาน ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยเห็น ไม่ว่าจะในโมเดิร์นเทรด ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อและร้านเวชสำอาง โดยเฉพาะชายหาดแถบทะเล ทั่วประเทศไทย แบรนด์พีโอแคร์เป็นกันแดดเจ้าแรกๆ ที่ทำกันแดดพร้อมบำรุง เพราะเข้าใจถึงสภาพผิวที่ต้องเผชิญกับแสงแดดประเทศไทยเป็นอย่างดี แค่กันแดดอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องช่วยปกป้องความชุ่มชื้นของผิวด้วยถึงจะแก้ปัญหาต้นตอของผิวแห้งกร้านคล้ำเสียได้”

คุณนิพากล่าวว่า “การศึกษาตลาดแบบเข้มข้นและทำความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้สำคัญมาก การต้องปรับเอาความต้องการของผู้บริโภค เข้าไปผสมผสานกับการพัฒนากันแดดเป็นเรื่องที่เรามุ่งเน้น ซึ่งข้อได้เปรียบของพีโอแคร์คือเรามีทีม R&D และมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางเป็นของเราเอง ทั้งยังสรรหาสารสกัดได้จากทั่วโลก ทำให้เราสามารถทำสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง จากการวิจัยคิดค้นสูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งทดสอบไปยังสถาบันที่ให้การรับรองมาตรฐานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อยู่หลายปี จนมั่นใจว่ากันแดด HyaC+ จะเป็น Product Hero ที่สามารถแข่งขันในตลาดกันแดดได้อย่างแน่นอน”

สิ่งที่ทำให้เหนือคู่แข่งในตลาดด้วยกัน ข้อหลักๆ สำคัญ ดังนี้

1. การคิดค้นสูตรที่เหมาะกับสภาพอากาศไทย แดดไทย ผิวคนไทย เป็นจุดแข็งของพีโอแคร์โดยเฉพาะจากที่กล่าวไปในข้างต้น พีโอแคร์ มีทีม R&D และมีโรงงานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงสารสกัดได้ทั่วโลก ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดประเภท Physical ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกับสภาพอากาศของประเทศไทย ในราคาที่เข้าถึงง่าย

กันแดด HyaC+ เป็น Physical Sunscreen 100% เหมาะกับทุกสภาพผิว และเหมาะมากกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่สะสมความร้อนในชั้นผิว มีส่วนช่วยลดปัญหาผิวแสบแดงระคายเคือง ทาแล้วไม่ทิ้งคราบขาว หน้าไม่เมือก ไม่เป็นขุย เพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้า เนื้อเกลี่ยง่ายมาก แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อ ตอบโจทย์ในสภาพอากาศบ้านเรา ที่มีความแปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวฝน ทาตัวนี้ไม่ต้องกลัวกันแดดหลุดเลย

แคร์ความต้องการสาวไทยสุดๆนอกจากจะเป็นกันแดดแล้ว ยังเป็นทั้งสกินแคร์ให้ด้วย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บล็อกแสง บูสต์ผิวใส” ด้วยนวัตกรรม HyaC+ ที่บรรจุ ไฮยาลูลอน 8 โมเลกุล และวิตามินซีจากผลคาคาดูพลัม ลงไปบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมพลัสออร่าให้แลดูกระจ่างใสได้ แคร์สุด คุ้มสุด ทั้งปกป้อง ทั้งบำรุงผิวใส

2. แบรนด์มีความจริงใจกับผู้บริโภค พร้อมบอกหมดเปลือกไม่มีกั๊ก คุณนิพาเล่าว่า การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา จริงใจไม่มีกั๊กจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เขาได้รับข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง เพราะเราไม่ได้มองว่าผู้บริโภคเป็นแค่ลูกค้า แต่ให้ความสำคัญเหมือนคนสนิท ที่เรามีอะไรดีเราก็บอก อะไรไม่ดีเราก็บอก เพราะผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้ศึกษาข้อมูล ผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกใช้ทุกคน แคมเปญของเราจึงสื่อสารแบบหมดเปลือกไม่มีกั๊ก!

3. เจ้าแรกในไทยที่ทำกันแดดพร้อมบำรุงจากบทสนทนาเล็กๆ ของคุณนิพา ที่ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยว นำมาสู่ต้นแบบผลิตภัณฑ์กันแดดของแบรนด์พีโอแคร์ทั้งหมด เรากลายเป็นแบรนด์กันแดดไทยเจ้าแรกๆ ที่ผลิตกันแดดพร้อมบำรุง มากไปกว่านั้นกันแดดของเรายังสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เพราะเราค้นพบและเชื่อมั่นว่า กันแดดที่ดีไม่ควรแค่กันแดด แต่ควรเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย เพราะการตากแดด หรืออาบแดดนาน ๆ ทำให้ผิวแห้ง แสบ ไม่ทนต่อแดด ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาต่างๆ ตามมา กันแดดของพีโอแคร์ทั้งหมดจึงมีจุดเด่นที่นอกจากกันแดดได้ดี ยังต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยดูแลผิวและสารสกัดจากทั่วโลกที่จะมาช่วยเสริมกันแดดให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย

4. ให้ความสำคัญเรื่องความหลากหลาย พีโอแคร์เล็งเห็นว่าการปกป้องผิวจากแสงแดดควรเป็นสิทธิของทุกคน อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดตลอดปี การเข้าถึงผลิตภัณฑ์กันแดดของคนไทยจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ พีโอแคร์จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีราคาที่จับต้องได้ และมุ่งเน้น คิดค้นพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์หลากหลายแบบ เพื่อให้คนไทยไม่รู้สึกว่าการทากันแดดเป็นเรื่องไกลตัว

อีกทั้งแบรนด์ยังมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ซัพพอร์ตเรื่อง Self Love และ Self Confidence ภายใต้คอนเซปต์ “ให้คุณเปล่งประกายได้ทุกวัน” (Let the Light Shine On You) ไม่ว่าใครก็สามารถเปล่งประกายได้ ในแบบของตัวเอง

5. แคร์สิ่งแวดล้อม เป็นมากกว่าครีมกันแดดที่แคร์ผิว เพราะยังแคร์สิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้ด้วย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของแบรนด์ เช่น การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยผลิตครีมกันแดดที่ใช้สารกันแดด Physical 100% เป็นมิตรกับสัตว์น้ำ และเพื่อลดโอกาสการเกิดปะการังฟอกขาวจากการใช้กันแดด และ แบรนด์พีโอแคร์ยังมีการจัดทำแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าทุกคน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชีวิตสัตว์ป่ากับแบรนด์ ภายใต้แคมเปญ “Protection For Protection”

6. ภาพลักษณ์ที่จริงใจ พร้อมโชว์ความแคร์อย่างจริงใจ กับพรีเซนเตอร์คนสำคัญ ก้อย อรัชพร ที่จะมา Represent ความน่ารัก แคร์เก่ง และจริงใจสุดๆ ในแบบของพีโอแคร์ คุณ นิพาเล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกคุณก้อยอรัชพรมาเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ พีโอแคร์ เป็นเพราะคาแรกเตอร์ที่ดูจริงใจ สนุกกับการใช้ชีวิตซึ่งเข้ากันกับแบรนด์ได้อย่างดี

คุณนิพาเผยว่า “ตอนที่พีโอแคร์เชิญคุณก้อยมาเป็นพรีเซนเตอร์นั้นใช้ระยะเวลานานพอสมควร เนื่องด้วยคุณก้อยเป็นคนผิวแพ้ง่าย จึงได้ลองนำผลิตภัณฑ์ไปลองใช้ก่อนที่จะรับเป็นพรีเซนเตอร์ หลังจากลองใช้อยู่หลายเดือน และการได้เข้ามาพูดคุยกัน ถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ คุณก้อยก็ตอบรับเป็น Presenter ของ PO CARE”

จากที่เล่ามาถึงตรงนี้ก็จะเห็นได้ถึงความจริงใจที่เล่าแบบหมดเปลือก ผ่านรายละเอียดต่าง ๆ ในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ “เพราะกลยุทธ์ของพีโอแคร์คือความแคร์อย่างจริงใจที่มีให้ทุกคน”

แคมเปญพูดกี่ทีก็มีแต่แคร์ แคร์ในทุกองศาอะไรบ้าง

กันแดดHyaC+ แคร์ผิวที่สุดเพราะเป็น Physical Sunscreen 100% เหมาะมากกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่สะสมความร้อนในชั้นผิว ช่วยลดปัญหาผิวแสบแดงระคายเคือง แต่ผิวทั่วไปก็ใช้ได้เหมือนกัน

กันแดดHyaC+ แคร์ความคุ้ม แคร์ความต้องการสาวไทย* (เน้นเรื่องนี้)
เพราะบล็อกแสง บูสต์ผิวใส นอกจากจะกันแดดแล้ว กันแดดตัวนี้มาพร้อมสกินแคร์ ด้วยนวัตกรรม HyaC+ ที่บรรจุ ไฮยาลูลอน 8 โมเลกุล และวิตามินซีจากผลคาคาดูพลัม ลงไปบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมพลัสออร่า ให้ผิวแลดูกระจ่างใส แคร์สุด คุ้มสุด ทั้งปกป้อง ทั้งบำรุงผิวใส

กันแดดHyaC+ แคร์ตอนใช้ อยากให้ใช้สะดวกที่สุดขวดฝาปั๊ม ใช้งานง่าย สะดวกตอนทา แถมบรรจุมาเต็มหลอด บีบง่าย ทาง่าย

กันแดดHyaC+ แคร์อากาศบ้านเราสุดๆบ้านเราอากาศร้อน ทำให้หน้าหยาง่ายมาก ถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ผิด แต่ HyaC+ทาแล้วหน้าไม่หยา เพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้า เนื้อเกลี่ยง่าย มาก แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อ ตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทย ที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน ทาตัวนี้ไม่ต้องกลัวกันแดดหลุดเลย

กันแดดHyaC+ แคร์สิ่งแวดล้อมเป็นมากกว่าครีมกันแดดที่แคร์ผิว เพราะยังแคร์สิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้ด้วย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการผลิตครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับปะการัง และการทำ CSR ตอบแทนสังคมในด้านสิ่งแวดล้อม

ทุกความต้องการของผู้คนที่ต้องออกไปใช้ชีวิต พีโอแคร์คิดมาให้หมดแล้ว มันปกป้องครบ แคร์ครบ