เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานเปิด กิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน และปล่อยแถวเจ้าหน้าที่รถไฟ เจ้าหน้าที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) บูรณาการความร่วมมือ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ ปี 67 ตลอดจนรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ รวมทั้งประชาสัมพันธ์แผนการดำเนินมาตรการของการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ขร. ได้จัดเจ้าหน้าที่ประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้านระบบรางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจ และอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟฟ้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อ และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จนถึงขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีรถไฟ พร้อมประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า เพิ่มความถี่ขบวนรถไฟฟ้าให้มากขึ้นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน โดยคาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 67 จะมีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 7 วันประมาณ 7.43 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปี 66 ประมาณ 26.56%

รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขยายระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เป็นล่วงหน้า 90 วัน ซึ่งช่วยให้ทราบความต้องการในการเดินทาง (demand) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และ รฟท. จัดเตรียมเพิ่มตู้พ่วงไปกับขบวนรถให้เพียงพอ รวมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์, กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์-กรุงเทพอภิวัฒน์, กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ รวม 16 ขบวน (เที่ยวไป 8 ขบวน และเที่ยวกลับ 8 ขบวน) ส่วนเส้นทางสายใต้พ่วงตู้รถนอนเพิ่มเติมจนเต็มหน่วยลากจูง คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวม 7 วันประมาณ 645,600 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปี 66 ประมาณ 33.34%

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ได้เพิ่มมาตรการด้านการอำนวยความสะดวก เชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารรวม 14 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 5, 16, 49, 67, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 536 และ A1 นอกจากนี้ บขส. จัดรถโดยสาร Shuttle bus รับส่งฟรีสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ กับด้านหน้าสถานีขนส่งกรุงเทพจตุจักร (หมอชิต 2) ทั้งนี้ในปีนี้ บขส. เปิดให้จองตั๋วล่วงหน้า และให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วรถ บขส.ล่วงหน้าในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายตะวันออกทุกมาตรฐาน ที่เดินทางระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย. 67 ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ขึ้นรถโดยสาร บขส. ได้ที่ประตู 2 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

ส่วนรถโดยสาร บขส. ขาเข้ากรุงเทพฯ จะจอดรับส่งผู้โดยสารที่ประตู 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับประชาชนที่จะเดินทางต่อด้วยระบบราง นอกจากนี้เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟระหว่างเมืองและรถไฟฟ้าในเมือง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายระยะเวลาการให้บริการจากเดิมเปิดให้บริการ 05.00 น. เป็นเวลา 04.00-24.00 น. ในวันที่ 11, 12, 16 และ 17 เม.ย. 67 รวม 4 วันอีกด้วย

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับผู้ให้บริการเดินรถขนส่งทางราง เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น ตรวจความพร้อมของเส้นทางรถไฟ และขบวนรถขนส่งทางรางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ผู้ปฏิบัติหน้าที่แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ นอกจากนี้ รฟท. ได้รับความร่วมมือจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกับขบวนรถไฟรวม 30 ขบวน ขบวนละ 2 คน รวมทั้งผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และสุนัข K-9 ลงพื้นที่สุ่มตรวจในพื้นที่เขตระบบรถไฟฟ้าอีกด้วย

โดยมีเป้าหมายอุบัติเหตุทางรางเกิดน้อยที่สุด ผู้ใช้บริการระบบรางไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดที่มีทางรถไฟวิ่งผ่าน ให้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร/กู้ภัย/อปพร. มาเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ผู้ใช้ถนน ไม่ฝ่าฝืนเครื่องกั้น และหยุดรถก่อนถึงทางรถไฟ มองซ้าย-ขวาให้แน่ใจว่าปลอดภัยจึงจะขับรถข้ามทางรถไฟ.