เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานแถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1, ตำรวจภูธรภาค 2, ตำรวจภูธรภาค 7, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ทั้งนี้ตามที่รัฐบาลได้จัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีการจัดงานขึ้นทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-21 เม.ย. 67 ซึ่งมีพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ 79 แห่ง และได้กำหนดให้วันที่ 12-16 เม.ย. 67 เป็นวันหยุดราชการ คาดว่าจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่จัดงานมหาสงกรานต์ทั่วประเทศ

รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมการรักษาความสงบเรียบร้อย การดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2567 ให้แก่พี่น้องประชาชน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการปราบปรามยาเสพติด หนี้นอกระบบ สินค้าเถื่อน สินค้าหนีภาษี แรงงานต่างด้าว บ่อนการพนัน แหล่งอบายมุข รวมถึงการปราบปรามอาวุธปืน อาวุธสงคราม ทั้ง On ground และ On line และการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกประเภท สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทุกกองบัญชาการ รวมทั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) , ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย. 67 ปรากฏผลการปฏิบัติดังนี้

1.ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในข้อหาหลัก ผลิต นำเข้า/ส่งออก จำหน่ายรวมจับกุม จำนวน 16,021 ราย ผู้ต้องหา 15,963 คน ของกลางยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 63,204,884 เม็ด , ยาไอซ์ 5,245.51 กิโลกรัม, เฮโรอีน 22,346.12 กิโลกรัม, โคเคน 93.11 กรัม, คีตามีน 1,694.12 กรัม, ยาอี 1,702 เม็ด ตรวจสารเสพติดในสถานบริการ พบสารเสพติด 34 คน
2.ความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ รวมผลการจับกุม จำนวน 705 ราย มูลหนี้ 16,057,617 บาท ของกลางประเมินมูลค่ารวม 34,461,388 บาท
3.ความผิดอาชญากรรมทั่วไป ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนัน, พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.สถานบริการฯ และอาวุธปืน รวมจับกุมจำนวน 49,189 รายผู้ต้องหา 51,525 คน
4.ความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย การเผยแพร่ข่าวปลอม และการพนันออนไลน์ รวมจับกุมจำนวน 7,176 ราย ผู้ต้องหา 7,129 คน มีการดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เช่น ซิมม้า บัญชีม้า ประกาศจัดหา ซื้อขาย บัญชีเงินฝาก หมายเลขโทรศัพท์ จำนวน 549 ราย ผู้ต้องหา 526 คน
5.ผลการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ รวม 7,716.หมาย ผู้ต้องหา 7,460 คน
6.ดำเนินการรับฝากบ้าน “โครงการร่วมใจยกระดับความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0 )” ยอดถึง ณ วันนี้ (11 เม.ย. 67) รับฝากแล้ว 5,976 หลังคาเรือน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังมีผลการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ซึ่งจำหน่ายทางออนไลน์ ตำรวจได้สืบสวนขยายผลปิดล้อมตรวจค้นจับกุมเป้าหมาย จำนวน 1,600 เป้าหมาย สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้ 835 ราย จำนวน 948 คน ผลการปฏิบัติรวมทั้ง On line และ On ground สามารถตรวจยึดจับกุมอาวุธปืนของกลางทั้งสิ้น จำนวน 4,357 กระบอก แบ่งเป็นเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 740 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 3,617 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 27,346 นัด, วัตถุระเบิด จำนวน 68 ลูก และสิ่งเทียมอาวุธปืน 45 กระบอก อีกทั้งจับกุมการพนันออนไลน์ดำเนินคดี จำนวน 654 เว็บไซต์ ผู้ต้องหา จำนวน 2,875 คน มูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้และวงเงินหมุนเวียน จำนวน 6,009,676,926 บาท และจะได้ดำเนินการประสาน ปิดเว็บไซต์/URL ดังกล่าวต่อไป

รรท.ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจัง มาโดยตลอด จึงได้มีการบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำความผิด ในความผิดที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะเป็นการป้องปราม และตัดโอกาสในการกระทำผิดของคนร้าย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนจากต่างประเทศ อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป ซึ่งการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดอาวุธปืน ตลอดจนของกลางอื่นๆ ได้จำนวนมากในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อเป็นของขวัญแด่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ พร้อมขอฝากประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแส เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมหรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.