ตั้งแต่การเชิญ ฟ่านปิงปิง ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวจีน มาโชว์ตัว แต่มาเงียบๆ ซึ่งระดับนี้ จะมาลุ้นกระแสเซอร์ไพร้ส์ ต้องบอกเลยว่า…เสียของ เกิดพีอาร์ดีๆ คนจีนจะมาร่วมเล่นสงกรานต์คึกคัก

ก็ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญของการทำซอฟต์พาวเวอร์ ที่มีงบจัดอีเวนต์หรือกิจกรรม แต่ไม่ทราบงบพีอาร์หายไปไหนหมด หรือมีแต่ทำกันไม่เป็นก็ไม่ทราบ ก็คงต้องฝาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์พิจารณา ที่ต้องฝากอุ๊งอิ๊ง เพราะหลายคนเชื่อว่า นี่คือ “ตำแหน่งลองงาน”

ก่อนหน้านี้ก็มีความพัง หรือที่สมัยใหม่เขาเรียกว่า “ความบ้ง” ของรัฐบาลมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้..และเกรงว่าต่อไปจะมีอีกใช่น้อย อย่างเรื่องการแถลงคนมีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต บอกเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ยึกยักอยู่นั่น จนกระทั่งประดิษฐ์วาทกรรมไม่กู้ได้ แต่ก็เป็นไปในทางที่ทางพรรคก้าวไกลดักไว้ก่อนว่า “ออกรูปนี้”

คนชั้นกลางที่มีเงินเดือนสูงหน่อย แต่ภาระรับผิดชอบในครอบครัวมาก หรือบังเอิญมีเงินฝากเป็นเงินออมเกินห้าแสน กลับไม่ได้ ทางกลุ่มนี้เขาก็ว่าไม่ยุติธรรมที่จะมาคำนวณเงินออมในธนาคารด้วย หลายคนกลับไปคิดถึงรัฐบาลลุงตู่ซะอย่างนั้น ว่าสมัยทำโครงการคนละครึ่ง ยัง “ฝนตกทั่วฟ้า” เสียมากกว่า ดึงร้านเข้าระบบภาษีได้ด้วย

บางครั้ง “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ก็ทำอะไรแบบกลายเป็นการตามหลังฝ่ายค้าน ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (และอาจกลับเป็นหัวหน้าได้อีกรอบในการประชุมใหญ่ของพรรค) ก็เคลื่อนไหวไปเรื่อย โดยเฉพาะสิ่งที่รัฐบาลพลาดมาก กับการบอกว่าแคร์คนจน คือกรณีหมอชิต 2

เรื่องมันเริ่มมาจากว่า สส.แบงค์ นายศุภณัฐ มีนชัยนันทน์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ไปสำรวจสภาพของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมใหญ่ด้านรถทัวร์ไปภาคเหนือและอีสาน แล้วพบสภาพแบบ “ดูไม่จืด” คือมีจุดชำรุดทรุดโทรมจำนวนมาก แถมจะเป็นแหล่งมั่วสุมอาชญากรรม เครื่องปรับอากาศ บันไดเลื่อนใช้ไม่ได้ สกปรก

สส.แบงค์ นำเรื่องนี้ขึ้นมาตีแผ่ในโซเชียลมีเดีย และ “เหมือนจะ” ตั้งคำถามไปยัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ในฐานะที่ “เห็นเสี่ยนิดงานไหน สุริยะอยู่งานนั้น” ว่า ทำไมถึงปล่อยให้พื้นที่เดินทางของคนฐานะปานกลางไปถึงยากจนแย่ได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือและอีสาน นี่เป็นฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทยด้วย

ก็เลยกลายเป็นว่าเสี่ยนิดต้องสั่งการให้นายสุริยะไปดูแล และก่อนสงกรานต์ก็แทคทีมกันไปตรวจแบบก็ไม่รู้ว่า..โรยผักชีไปกี่ไร่…ไม่ให้ บขส. หน้าแหกแตกละเอียดไปกว่านี้ หลังจากนั้น นายพิธาและ สส.แบงค์ ก็ไปดูสภาพ ถึงไปตามหลังนายกฯ แต่เรียกว่าเป็นการเดินเกมสูงกว่า เพราะเป็นคนเปิดเรื่อง กลายเป็นการมาตรวจงานกลายๆ ว่า “รัฐบาลทำหรือยัง”

และในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังมีอยู่ ตั้งแต่เรื่องจัดตั้งรัฐบาล เรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร จะทำให้ประชาชนยิ่งต้องการหลุดพ้นจากกลุ่มการเมืองเก่าๆ บวกกับการทำงานลงพื้นที่ที่เข้มแข็งของพรรคก้าวไกล เผลอๆ เลือกตั้งสมัยหน้ามีแลนด์สไลด์แบบที่ไม่ใช่เพื่อไทยประกาศ เขาตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้จริงล่ะจะหนาว

มีการปล่อยข่าวว่า ก้าวไกลจะโดนยุบอย่างโน้นอย่างนี้ และมีงูเห่าจะย้ายไปพรรคอื่น เพื่อหนีการถูกตัดสิทธิทางการเมือง..ก็ไม่รู้พรรคอื่นช่วยได้อย่างไร แต่ปัญหาคือใครจะเป็นงูเห่าคิดหนักแน่ หรือไม่ก็ขอเป็น สส. สมัยเดียวพอ เนื่องจากท่าทีพรรคก็ออกมาให้เห็นว่า จะยุบจะทุบอย่างไร ก็มีคนใหม่ขึ้นมา คนเก่าคอยหนุนหลัง เพื่อสร้างการเมืองแบบใหม่

รัฐบาลดูแย่กว่าฝ่ายค้าน เอาแค่เรื่องที่มาดิจิทัลวอลเล็ต หวยออกฝ่ายค้าน ทายที่มาเงินถูก รัฐบาลก็ต้องทบทวนการทำงาน.