เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 3 บ้านคูเมือง ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิตขณะเล่นน้ำสงกรานต์ ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 221 สายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ ในเขตเทศบาลตำบลพยุห์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 17.50 น. เมื่อไปถึงได้พบกับ น.ส.วลัยพร ศิรินัย อาย 39 ปี แม่ของนายกีรติ วงศา หรือ น้องเอิร์ท อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ตนมีลูก 2 คน น้องเอิร์ท เป็นคนโต คือผู้ที่เสียชีวิต และมีลูกสาวคนเล็กอีก 1 คน ปัจจุบันตนและสามีได้ไปประกอบอาชีพรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนลูกทั้งสองคน ก็จะอยู่ที่บ้านคอยดูแลยาย

โดยน้องเอิร์ท ผู้ตาย ก็จะเสมือนเป็นเสาหลักของบ้านที่คอยดูแลครอบครัว เป็นคนขยันขันแข็ง หมั่นทำมาหากิน อยากได้อะไรก็จะพยายามหาด้วยตัวเอง ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ซึ่งอนาคตของน้องเอิร์ท เคยพูดให้ตนฟังว่า ปีหน้าจะบวชให้แม่ และจะสอบเป็นข้าราชการตำรวจให้ได้ มีการสั่งหนังสือมาอ่านเตรียมสอบเรียบร้อย แต่ไม่คิดว่าจะมาจบชีวิตลงแบบนี้ รู้สึกเสียใจมาก ตนคิดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบเสาไฟดังกล่าว เขาประมาทเกินไป เพราะมันอยู่ในเขตชุมชน ถ้าไม่โดนกับลูกตนก็ต้องโดนกับคนอื่น แต่อาจจะเป็นคราวเคราะห์ของลูกตน ที่ต้องมาโดนช็อตก่อนเขาแค่นั้นเอง อยากให้ดูแลให้ดีกว่านี้ อยากให้มีความละเอียดรอบคอบกว่านี้ ซึ่งเบื้องต้นทางแขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 2 ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ 2 หมื่นบาท และหลังงานศพเสร็จสิ้น จะได้มีการเจรจาเยียวยาต่อไป

ขณะที่เพื่อนสนิทของน้องเอิร์ท ซึ่งทำงานด้วยกันและอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ผู้ตายตัวเปียกและได้วิ่งออกไปบนถนนใหญ่เพื่อไปประแป้งเล่นสงกรานต์อยู่บริเวณหน้าร้านที่ทำงาน ขณะเดินกลับมา ได้เผลอเอามือไปจับเสาไฟส่องสว่างริมทางเดินฟุตปาธซึ่งเป็นเสาเหล็ก จากนั้นได้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด จนร่างไปกอดติดกับเสา และมีเสียงร้องโอ๊ยขึ้นมา 1 ครั้ง เพื่อนๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตเอาไว้ได้

นายเกษมศานต์ สมเสนาะ อายุ 31 ปี เจ้าของร้านสมพรพาณิชย์ อ.พยุห์ นายจ้างของผู้เสียชีวิต และเจ้าของภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุ กล่าวว่า น้องเอิร์ท เป็นคนดี นิสัยน่ารัก เป็นคนขยันทำงาน วันเกิดเหตุทราบว่าหน้าร้านมีการเล่นน้ำสงกรานต์กัน จึงทำให้ตัวเปียกและไม่ได้ใส่รองเท้า เดินผ่านไปมาบริเวณเสาไฟดังกล่าวหลายรอบและได้เผลอจับเสาไฟต้นเหตุ เชื่อว่าไฟน่าจะรั่ว ตนมาเห็นอีกทีตอนน้องกอดเสาไฟแล้ว คนงานที่อยู่ในร้านเห็นเข้าจึงได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ และผลักตัวออกจากเสาไฟ หลังเกิดเหตุเพียงไม่ถึง 30 วินาที จากนั้นก็ทำการปั๊มหัวใจจนชีพจรมากลับมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เพียงชั่วคราว ไม่คิดว่าน้องจะอาการหนักขนาดนี้ ตนคิดว่ากระแสไฟฟ้าน่าจะแรงสูง จนทำให้น้องไม่รอด รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณที่เกิดขึ้น และเสียดายอนาคตของน้องด้วย.