ภูเขาไฟเอเรบัส ซึ่งอยู่บนเกาะดีเซปชัน เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ 2 ลูกจากทั้งหมด 138 ลูกบนทวีปแอนตาร์กติกาที่ยังไม่ดับ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญดินแดนแอนตาร์กติกยังระบุว่า ภูเขาไฟลูกนี้จะพ่นกลุ่มควันหรือก๊าซออกมาจากปล่องภูเขาด้านบนทุกวัน ซึ่งในกลุ่มก๊าซเหล่านี้จะมีละอองทองรวมอยู่ด้วยในปริมาณราว 80 กรัมต่อวัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 6,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 220,700 บาท 

แต่กลุ่มควันและละอองทองเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในจุดที่เข้าถึงง่าย ด้วยความสูงเกือบ 3,800 เมตรของภูเขาเอเรบัส หนำซ้ำยังอยู่ในสถานที่ห่างไกลอย่างขั้วโลกใต้ซึ่งเต็มไปด้วยหิมะ น้ำแข็งและอากาศหนาวจัด

นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าภูเขาไฟลูกนี้จะพ่นแต่เศษทองออกมา ตามข้อมูลของศูนย์สังเกตการณ์ National Aeronautics and Space Administration Earth Observatory ขององค์การ “นาซา” สิ่งที่ภูเขาไฟเอเรบัสพ่นออกมานั้น ยังมีทั้งก๊าซ ไอน้ำร้อนและก้อนหินที่ระเบิดออกมา  

ภูเขาไฟเอเรบัสเริ่มปะทุเมื่อกว่าล้านปีมาแล้วและยังคงปะทุอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่มีการจดบันทึกไว้ในปี ค.ศ. 1972 นอกจากนี้มันยังมี “ทะเลสาบลาวา” อยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นแอ่งขนาดใหญ่ที่บรรจุหินหลอมเหลวอยู่ด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่พบได้ยาก และจำเป็นต้องอยู่ในสภาพพิเศษอย่างมาก หินหลอมเหลวเหล่านี้จึงไม่ได้แข็งตัวท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นจัดของขั้วโลกใต้

สภาพที่เข้าถึงได้ยากของดินแดนแถบนี้ทำให้มีการสำรวจพื้นที่น้อยมาก ปัจจุบันจึงยังมีข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาไฟเอเรบัสและแอนตาร์กติกาไม่มากนัก แต่เมื่อปลายปีที่แล้วได้มีทีมนักสำรวจจากนิวซีแลนด์เดินทางขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟเอเรบัสและสามารถเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตระดับที่คาดว่ามีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, NASA