ทักทายแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกคน มาเจอกับ “นูน่าเมี้ยน” กันทุกสัปดาห์เลยนะคะ แน่นอนเจอกันแบบนี้ นูน่าก็จะต้องมาพร้อมคอลัมน์ที่สุดแสนจะดีงามอย่าง “SeoulStation” คอลัมน์ที่จะพาแฟนๆ ทุกคนมาอัปเดตเรื่องราวของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์แบบพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งในสัปดาห์นี้ นูน่ามีความพิเศษมามอบให้อีกเช่นเคย กับงาน “2024 พาว ไลฟ์ สเตจ [พาว เฮาส์ อิน แบงค็อก]” (2024 POW Live Stage [POW HOUSE in Bangkok]) ของหนุ่มๆ วง “พาว” (POW) ซึ่งมีสมาชิก 5 คนประกอบด้วย “ยอร์ช” (YORCH), “ฮยอนบิน” (HYUNBIN), “จองบิน” (JUNGBIN), “ดงยอน” (DONGYEON) และ “ฮง” (HONG) ศิลปินบอยกรุ๊ปเบอร์แรกของสังกัด กริด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (GRID Entertainment) ประเทศเกาหลีใต้ และได้ผู้จัดไทยขวัญใจแฟนคลับเกาหลีผลงานดีมาตลอด 13 ปี อย่าง บริษัท เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) ทุ่มทุนจัดให้ได้เจอกันเต็มอิ่มจุใจกว่า 3 ชั่วโมง พลังความสุขเอ่อล้นตลอดงานแฟนไลฟ์ไปเลย
ซึ่งบอกเลยว่านี่เป็นการแสดงเดี่ยวครั้งแรกของหนุ่มๆ ทั้ง 5 หลังเดบิวต์ได้เพียง 6 เดือน แต่ทำเอาไม่ว่าจะเป็นทีมแม่หรือทีมพี่สาวก็สุดใจฟูตกหลุมรักแบบถลำลึกกันถ้วนหน้า โดยภาพรวมบรรยากาศงานคุมโทนมาอย่างดี เพราะ “พาวเวอร์” (POWER ชื่อเรียกแฟนคลับของวง POW) ชาวไทย นัดแนะกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีน้ำเงิน-ฟ้า-ขาวสุดคูล เปิดฉากการแสดง พร้อมเสียงกรี๊ดต้อนรับล้นหลาม “น้องพาว” (ชื่อเล่นที่พี่สาว POWER เรียกกันติดปากด้วยความเอ็นดู) ทำถึงตั้งแต่เปิดสเตจบูสต์เอเนอร์จีเพลงแรกกันด้วย “Amazing” ซึ่งโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์จัดหนักถึงใจ เห็นได้ชัดถึงการเติบโตของหนุ่มๆ POW ในวันนี้ ที่เต็มไปด้วยคาริสม่าออร่าคนหล่อเปล่งประกาย
น้อง POW แจกความสดใสประสานเสียงทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทย “สวัสดีครับ พาวครับ” แล้วแนะนำตัวทีละคน เริ่มจากยอร์ช “สวัสดีครับ ผมเป็นพี่คนโตของ POW นะครับผม” ต่อด้วยหัวหน้าวงคนเก่ง “สวัสดีครับ จองบินครับ ผมเป็นลีดเดอร์ที่ดีที่สุดของ POW นะครับ” ถัดมาที่มังเน่สุดแพรวพราว “สวัสดีครับ ฮงครับ ผมเป็นน้องเล็กของ POW นะครับ” แล้วถึงคิวเจ้าของเสน่ห์ล้นเหลือ “สวัสดีครับ ดงยอนนะครับ ผมเป็นคาริสม่าของ POW ครับ” ปิดท้ายกับหนุ่มขี้เล่นผู้เติมเต็มพลังเก่ง “สวัสดีครับ ฮยอนบินนะครับ ผมเป็นเอเนอร์จีของ POW นะครับ” การันตีเลยว่าสกิลภาษาไทยของหนุ่มๆ แน่นมาก สมกับที่มีพี่ยอร์ชคอยเทรนให้จริงๆ ต่อมากับสเต็ปจัดเต็มด้วยพรีเดบิวต์ซิงเกิลสุดโปรดของทุกคนอย่าง “Favorite” และคัฟเวอร์เพลง “What Makes You Beautiful” (ต้นฉบับโดย One Direction) ที่ห้าหนุ่ม POW เคยใช้แสดงในการประเมินด้วยกันครั้งแรก ซึ่งเพลงสำคัญแบบนี้แน่นอนว่าพาวเวอร์ไทยไม่พลาดที่จะทำโปรเจกต์เติมเต็มแสงสีฟ้าทั่วทั้งฮอลล์ โดย ยอร์ช เป็นตัวแทนบอกเล่าความรู้สึก “ดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาแสดง POW HOUSE ที่บ้านเกิดอีกครั้ง เมื่อปีที่แล้วได้เจอกันเป็นครั้งแรก ครั้งนี้มีโอกาสได้พบทุกคนอีกก็รู้สึกดีใจมากๆ ครับ”
หลังจากที่หนุ่มๆ POW ไม่ได้มาประเทศไทยเป็นเวลานาน ก็มีเรื่องราวน่ารักๆ มาเล่าให้แฟนๆ ฟัง ทั้งเรื่องความตื่นเต้นระหว่างซ้อมไลฟ์สเตจครั้งนี้ รวมถึงการฝึกอิมเมจเพิ่มความมั่นใจ แถมล่าสุดก่อนวันงานยังจับกลุ่มออกกำลังกายฟิตหุ่นให้เฟิร์มกันอีกด้วย ช่วงถัดมาความลับไม่มี รูปดีๆ ต้องปรากฏ กับช่วง “Behind the Scene Photo Talk” ที่ทุกคนขุดรูปจากโทรศัพท์มือถือมาเปิดเผยเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมีรูปภาพอีกมากมายที่เห็นแล้วเป็นต้องยิ้มตามไปกับความทรงจำสุดพิเศษที่น้องพาวตั้งใจเตรียมมามอบให้ในงานครั้งนี้ ตามมาด้วยอากาศร้อนๆ อย่างเมืองไทยต้องบรรเทาด้วยเพลงชิลใจอย่าง “Dazzling” ที่ดีงามสมเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Album ประเทศไทย เพิ่มอรรถรสกันต่อด้วยเกม “Jenga” มาพร้อมคำถามและมิสชั่น โดยมีเครื่องจับเท็จหูแมวเติมความน่ารักเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ไลฟ์สเตจถัดมาเป็นเพลง “Slow Dancing” ที่ยอร์ชและจองบินมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลง จากนั้นได้เวลาของไฮไลต์ที่เคยสปอยล์ไว้ เพลงไทยพิเศษใส่ไข่ ใส่ใจ 5 ดวงของหนุ่มๆ วง POW อย่าง “พี่ชอบหนูที่สุดเลย” (I Like You The Most) ที่เมมเบอร์ทั้ง 5 คนตั้งใจเลือกมาร้องเป็นของขวัญให้พาวเวอร์ชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งน้องพาวฝึกฝนกันมาอย่างดี คีย์เป๊ะ เข้าปากทุกคำ โดย ยอร์ช บอกว่าเหตุผลที่เลือกคัฟเวอร์เพลงนี้ เพราะเป็นเพลงที่เหมาะกับพาวเวอร์ทุกคนนั่นเอง
บททดสอบสกิลภาษาไทยขั้นแอดวานซ์ของหนุ่มๆ POW ต้องมา กับเกม “Tongue Twister” เวอร์ชั่นภาษาไทย โดย ยอร์ช รับหน้าที่ช่วยอ่านโจทย์ ส่วนสมาชิกที่เหลือจับคู่แบ่งเป็นสองทีมกับประโยคลิ้นพันสุดหินมากมายทั้ง “ลิงใหญ่ถือลำไยเล็ก ลิงเล็กถือลำไยใหญ่”, “ไหมใหม่ไม่ไหม้ ใช่ไหม”, “ยายกินลำไย น้ำลายยายไหลย้อย”, “ควายไล่ขวิดข้างขวา คว้าขวานมาไล่ขว้างควายไป”, “ตาตี๋ตกต้นตาล ตอตำตูดตาตี๋ตายใต้ต้นตาล” ก่อนที่เพื่อนๆ จะขอแกงพี่ใหญ่ให้รับบทลงโทษสักนิดด้วยผ้าปิดตา เพื่อจะทำเซอร์ไพร้ส์เค้กวันเกิดให้ยอร์ชนั่นเอง โดยเมมเบอร์พาวและพาวเวอร์ร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ โดยมี จองบิน รับหน้าที่ตัวแทนบอกกล่าวความรู้สึก “เป็นการฉลองวันเกิดของพี่ยอร์ชครั้งแรกหลังจากที่พวกเรารวมตัวกัน รู้สึกดีที่ได้ฉลองวันเกิดที่บ้านเกิดของพี่ยอร์ชเอง วันคล้ายวันเกิดของพี่ในปีถัดๆ ไปพวกเราก็อยากจะอยู่ร่วมกับพี่นะ” ด้าน พี่ยอร์ช เจ้าของวันเกิดก็เผยถึงความประทับใจเช่นกัน “เป็นครั้งแรกที่มีเค้กวันเกิดบนเวที วันเกิดทุกๆ ปีมีความหมายสำหรับผมมากๆ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่มางานวันเกิดขนาดใหญ่ในวันนี้นะครับ ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ”
อัดแน่นความพิเศษกันต่อกับสเปเชียลไลฟ์สเตจ ยูนิตคัฟเวอร์เพลง “Reality” ที่ได้ฟังเสียงหวานๆ ของ ยอร์ช และทักษะเปียโนของ ฮง ครองบรรยากาศโรแมนติกชวนเคลิ้ม ทั้งคู่เติมเต็มเสน่ห์ให้กันและกันได้เป็นอย่างดี ถัดไปเป็นยูนิตคนเท่ที่มาในคัฟเวอร์เพลง “Don’t Look Back in Anger” โดยสามหนุ่ม จองบิน ฮยอนบิน และ ดงยอน ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาแบบไม่มีกั๊ก จากนั้นเติมความฮอตด้วยไลฟ์สเตจเพอร์ฟอร์แมนซ์ “Honeymoon” และ “No Guidance” ฉบับรีมิกซ์ ไลน์เต้นคมกริบเฉือนใจพาวเวอร์ไทยไปเลยเต็มๆ แต่โมเมนต์ที่ทำเอาหนุ่มๆ POW เสียน้ำตา ก็คือช่วงของคลิปวิดีโอโปรเจกต์จากพาวเวอร์ชาวไทย ซึ่งมาพร้อมป้ายสโลแกนชาร์ตพลังชู ขึ้นทั่วฮอลล์ “지금부터 더 반짝반짝 빛나자 POW OUR FAVORITE” ที่แปลได้ว่า “จากนี้ไปมาเปล่งประกายให้เจิดจ้าเลยนะ POW OUR FAVORITE” สร้างความตื้นตันใจกับพลังซัพพอร์ตที่แฟนๆ มอบให้ จน ฮง น้องเล็กระเบิดน้ำตาเป็นคนแรก ตามด้วย จองบิน และ ยอร์ช ต่างขอบคุณกันและกันที่ร่วมเดินบนเส้นทางแห่งความสำเร็จในครั้งนี้
จองบิน เปิดใจว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหมายลึกซึ้งต่อพวกเรา เป็นบ้านเกิดของพี่ยอร์ช เป็นที่แรกที่พวกเราได้ออกรายการ ได้ขึ้นเวทีใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้น POW HOUSE ในครั้งนี้พวกเราก็อยากแสดงให้เต็มที่ ระยะทางที่ไกลขนาดนี้แต่ก็ยังมีพาวเวอร์มากมายที่คอยให้กำลังใจคอยสนับสนุนพวกเราอยู่ ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ”
ส่วน ยอร์ช ที่คิดว่าตัวเองจะไม่ร้องไห้ “ปกติแล้วเวลาไปงานโรงเรียนผมจะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าอย่าร้องไห้ เพราะว่าถ้าผมเห็นก็จะร้องไห้ตาม แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ผมยังไม่ทันได้เห็นพ่อแม่ร้องไห้น้ำตาผมก็ไหลออกมาเลย ขอบคุณทุกคนมากครับ ผมจะจดจำวันนี้ไปอีกนานเลยครับ”
ดงฮยอน “ขอเวลาให้ผมสักครู่ได้ไหมครับ อยากจะใช้เวลาเก็บภาพแต่ละท่านที่มาในวันนี้ไว้ในสายตาของผมครับ นึกถึงตอนที่จะเป็นไอดอลแรกๆ ครับ ภาพที่ผมวาดฝันไว้มันเปิดอยู่ข้างหน้าผมแล้ว ก็บอกเสมอนะครับว่าการที่มีตัวตนของพาว เป็นเพราะพาวเวอร์ ผมขอขอบคุณพาวเวอร์ทุกคนที่มีตัวตนอยู่เพื่อพวกเราครับ พอได้ดูวิดีโอเมื่อสักครู่นี้ ก็พูดกับตัวเองเลยนะครับว่าไม่มีเหตุผลเลยนะที่ฉันจะไม่เต็มที่ ขอบคุณและรักนะครับ อายจังเลยครับ”
ฮยอนบิน “ผมเป็นคนพูดอะไรแบบนี้ไม่เก่งเหมือนคนอื่น จะเขินนิดหน่อยนะครับ ครั้งแรกที่ผมมาเมืองไทยได้รับความทรงจำที่ดีและมีความพิเศษกลับไปก่อนที่จะมาก็คิดว่าจะได้เจอพาวเวอร์และได้สร้างความทรงจำดีๆ กลับไป แต่พอได้มาเจอจริงๆ ก็ได้รับความทรงจำดีๆ จริงๆ รู้สึกดีมากเลยครับ พวกเราจะคอยอยู่ข้างทุกๆ คนเสมอเลยนะครับ เพราะฉะนั้นในเดือนเมษายน POW NOW #IRL in LA ขอฝากด้วยนะครับ” ปิดท้ายที่ ฮง “จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีน้ำตานะครับ พี่ๆ ก็น่าจะทราบ ผมเองก็ไม่ค่อยได้เสียน้ำตาต่อหน้าพี่ๆ รวมถึงที่บริษัทด้วย วันนี้ก็คิดว่าจะไม่เสียน้ำตาแน่ๆ แต่สารภาพว่าผมเกือบจะร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่มีวิดีโอเปิดตัวแล้วครับ พยายามจะกลั้นไว้และร้องเพลง Amazing หวังว่าจะมีโอกาสมาเจอกับพาวเวอร์ไทยในโอกาสต่อๆ ไป มีเพียงแค่คำว่าขอบคุณเท่านั้นครับที่ทำให้พวกเราได้เจิดจรัสเพราะทุกคนครับ”
เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายกับซิงเกิลล่าสุด “Valentine” เพลงรักสไตล์ POW ที่อัดแน่นไปด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับเทพ บวกกับ “Favorite” (Band Ver.) ที่พาวและพาวเวอร์ได้ร่วมร้องไปด้วยกันมันช่างดีต่อใจ และ 5 หนุ่ม POW ก็เซอร์ไพร้ส์ด้วยการลงจากเวทีบุกเข้าประชิดตัวแฟนๆ ในเพลง “Valentine” (Rock Ver.) เดินแจกลูกบอลพร้อมลายเซ็นด้วยมือตัวเองกันอย่างสนุกสนาน เมมเบอร์แต่ละคนกระจายตัวลัดเลาะไปตามที่นั่งโซนต่างๆ ทั่วฮอลล์ บันทึกภาพอย่างไรก็ไม่เต็มอิ่มเท่าที่หัวใจรับรู้สดๆ ณ โมเมนต์นั้นจริงๆ
บอกได้เลยว่าทั้ง 5 หนุ่มจัดเต็มโมเมนต์ความสนุกแบบสุดๆ แม้จะเป็นน้องเล็กในวงการแต่ก็เอาอยู่ด้วยเพอร์ฟอร์ม 12 เพลงไลฟ์สเตจสุดเจ๋ง พร้อมกับโชว์ศักยภาพ ความสามารถ และการเติบโตให้เหล่าแฟนๆ ได้รับรู้ พร้อมตอกย้ำถึงแรงสนับสนุน แรงซัพพอร์ตที่ส่งไปถึงใจกันและกันอีกด้วย ทำให้เชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้ทั้ง 5 หนุ่ม จะต้องเปล่งประกายให้เจิดจ้า ท่ามกลางความรักอันบริสุทธิ์ของเหล่าแฟนคลับที่คอยเติมเต็มให้กันและกันไม่มีเปลี่ยนแปลง..
คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”