เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลา 09.40 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 31 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม 195 อำเภอ 1,001 ตำบล 6,909 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 264,210 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 8 ราย (ลพบุรี 6 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย และชัยนาท 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ 1 ราย)
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี และกำแพงเพชร ยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด ดังนี้
1.สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสำโรง อ.คีรีมาศ และ อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำลดลง
2.พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.วังทอง อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ ระดับน้ำลดลง
3.เพชรบูรณ์ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์
4.พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บึงนาราง อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล และ อ.สามง่าม ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ระดับน้ำทรงตัว
5.ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.โคกโพธิ์ไชย อ.ชนบท อ.มัญจาคีรี และ อ.โนนศิลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6.ชัยภูมิ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชัยภูมิ อ.ภูเขียว อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส และ อ.คอนสวรรค์ ระดับน้ำลดลง
7.นครราชสีมา ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.ด่านขุนทด อ.สูงเนิน อ.โนนสูง อ.เมืองนครราชสีมา อ.พิมาย อ.ปักธงชัย อ.โนนโทย อ.คง อ.พระทองคำ อ.จักราช อ.สีดา อ.ขามสะแกแสง และอ.บ้านเหลื่อม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ จังหวัดได้จัดตั้งจุดอพยพ 4 จุด ใน อ.โนนสูง อ.โนนไทย อ.แก้งสนามนาง และ อ.เมืองนครราชสีมา ผู้อพยพ 544 คน
8.อุบลราชธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น จัดตั้งจุดอพยพใน อ.เมืองอุบลราชธานี ผู้อพยพ 467 คน
9.นครสวรรค์ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ลาดยาว และ อ.ท่าตะโก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง
10.อุทัยธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุทัยธานี อ.ทัพทัน และ อ.สว่างอารมณ์ ระดับน้ำลดลง
11.ชัยนาท น้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.เนินขาม อ.หันคา อ.สรรคบุรี อ.สรรพยา อ.เมืองชัยนาท และ อ.หนองมะโมง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
12.ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองลพบุรี อ.ชัยบาดาล และ อ.บ้านหมี่ ระดับน้ำลดลง
13.สระบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.วังม่วง อ.แก่งคอย อ.เสาไห้ อ.บ้านหมอ อ.หนองโดน อ.วิหารแดง อ.พระพุทธบาท อ.เมืองสระบุรี อ.มวกเหล็ก อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.ดอนพุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
14.สุพรรณบุรี ยังคงน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
15.สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี และ อ.ค่ายบางระจัน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
16.อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอ่างทอง อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย และ อ.ป่าโมก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
17.พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา และ อ.บางไทร ยังน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว
ปัจจุบันบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ขณะที่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมรับมือแล้ว ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง.