เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานนว่า วานนี้ ( 25 เม.ย. 67) ในเพจเฟซบุ๊ก “สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย” นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องลิงทำร้ายคนใน จ.ลพบุรี ว่า “…บันทึกจากนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย มีผู้คนจำนวนมากสอบถามผมว่า กรณีที่ลิงที่จังหวัดลพบุรี ได้ก่อความไม่สงบสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน มีทั้งการทำร้ายเพื่อแย่งอาหารและขโมยทรัพย์สิน แต่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต้องอดทนและหาทางป้องกันตนเอง เพราะถ้าไปทำร้ายลิงจะเป็นความผิดตามกฎหมาย นั้น ขอเรียนว่า

ในกรณีที่ลิงทำร้ายประชาชนเพื่อแย่งอาหารและขโมยทรัพย์สิน ถือเป็นภยันตรายที่เกิดขึ้นโดยมิได้เป็นความผิดของประชาชน กรณีนี้ประชาชนย่อมมีสิทธิกระทำการใดได้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นหรือทรัพย์สินของตนพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ถ้าการกระทำนั้น (การทำร้ายลิง) ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษตามมาตรา 67 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนซึ่งรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากลิง จนไม่สามารถประกอบอาชีพต้องย้ายสถานที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ประกอบอาชีพนั้น สามารถใช้สิทธิทางศาลฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลลิงไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมในมูลละเมิด เพราะการที่เจ้าหน้าที่ของกรมดังกล่าวละเลยต่อหน้าที่ไม่ดูแลลิง หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวช้าเกินสมควร

การฟ้องคดีดังกล่าวกระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 (2) พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 5 วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 ซึ่งการฟ้องคดีต่อศาลปกครองไม่มีข้อยุ่งยาก ประชาชนสามารถรวมตัวกันเพื่อเป็นผู้ฟ้องคดีร่วมฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ อันจะทำให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง ไม่มักง่าย ปล่อยปละละเลยปล่อยให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน”.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก “สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย”