เมื่อวันที่ 26 เม.ย. สำนักงานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA Headquarter) นำโดย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานอิฟม่า, สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการอิฟม่า, พล.อ.อ.มังกร เสมารัตน์ อุปนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ, นายขจร พราวศรี อุปนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ ร่วมในพิธีปิดการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนมวยไทยที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่จัดกิจกรรมส่งเสริม และเผยแพร่มวยไทยในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่ห้องประชุมเธียเตอร์ ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย

การอบรมดังกล่าว IFMA Headquarter ได้รับการร้องขอจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จึงได้ร่วมกัน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. ให้ความร่วมมือในการจัดอบรมระหว่างวันที่ 24-26 เม.ย. 67 สืบเนื่องจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ส่งหนังสือขอรับการสนับสนุนครูฝึกมวยไทย (ชาวไทย) จำนวน 8 คน มาถึง “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่จัดกิจกรรมส่งเสริม และเผยแพร่มวยไทยในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการฝึกสอนมวยไทยระหว่างครูมวยไทยของไทย กับครูมวยไทยของซาอุดีอาระเบีย อีกทั้งเป็นการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย กับซาอุดีอาระเบีย และต่อยอดเป็นครูฝึกมวยไทย ซึ่งมีผู้ฝึกสอนให้ความสนใจที่จะเดินทางไปเป็นครูฝึกมวยไทยในระยะยาว พร้อมทั้งเดินทางไปกรุงริยาด เพื่อร่วมสาธิตมวยไทย และศิลปะการต่อสู้ของไทยบนเวทีในงาน “มวยไทย กาล่า 2024” และทำการฝึกสอนมวยไทยตามหลักสูตรการฝึกอบรมมวยไทยให้กับผู้เข้าร่วมงาน “Muaythal Workshop for Saudi Muaythai Trainers'” ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค. 67

อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด แจ้งกับ กกท. ว่า ผู้ฝึกสอนมวยไทยทั้ง 8 คน จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรม OSM หรือ One Standard Muaythai จากสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) และได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากอิฟม่า เพื่อให้สามารถไปทำการฝึกสอนมวยไทยในซาอุดีอาระเบียได้ เนื่องจากเป็นไปตามหลักสากลในการพัฒนา และอบรมผู้ฝึกสอนมวยไทยต้องได้รับการรับรอง และได้รับใบประกาศนียบัตรจากสหพันธ์กีฬานั้นๆ ซึ่งในส่วนของมวยไทย สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เพียงองค์กรเดียว เป็นผู้รับผิดชอบ

โดยหลังเสร็จสิ้นการอบรม เมื่อวันที่ 26 เม.ย. IFMA Headquarter ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ 8 ครูมวยชาวไทย ที่ผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทย ระดับ C License ของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย และผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ฝึกสอนมวยไทย ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน แต่ยังไม่พอที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ต่างประเทศและต้องได้รับประกาศนียบัตรผ่านการอบรมจาก IFMA Headquarter จำนวน 8 คน ประกอบด้วย จ่าสิบตรี ศุภชัย พันธุ์สุวรรณ, สิบเอก อัมฤทธิ์ สิงห์ดี, สิบเอก อภิวัฒน์ สุริฉาย, นายธชาดล แช่มรัมย์, นายอนุสรณ์ ศรีจันทร์, นางสาวณัฐธันยา ไวจันทึก, นางสาวสายฝน จิตมา และนางสาวปนิดดา พาชัย

ทั้งนี้ ครูมวยไทยทั้ง 8 คน จะเดินทางไปกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อทำหน้าที่ “ทูตครูมวยไทย” ร่วมสาธิตมวยไทย และศิลปะการต่อสู้ของไทยบนเวทีในงาน “มวยไทย กาล่า 2024” และทำการฝึกสอนมวยไทยตามหลักสูตรการฝึกอบรมมวยไทยให้กับผู้เข้าร่วมงาน “Muaythal Workshop for Saudi Muaythai Trainers” ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค. 67 ต่อไป

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานอิฟม่า เปิดเผยว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ สำนักงานกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในการร่วมมือกันโดยไม่จำเป็นต้องทำบันทึกข้อตกลงใดๆ มันคือความร่วมมือร่วมใจ ในฐานะคนไทย ที่ต้องการส่งเสริมกีฬามวยไทยจากประเทศแม่ไปยังประเทศต่างๆ ร่วมกันด้วยมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ โดยเฉพาะตนรับผิดชอบสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ในฐานะเป็นประธาน และเป็นคนไทย ต้องขอให้สมาชิกของ IFMA ได้ทำงานร่วมมือกับสำนักงานมวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ผ่าน IFMA HQ รวมถึงสมาชิกที่อยู่ในไทยคือ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ

“ผมไม่สามารถไปห้ามปราม คณะบุคคล นิติบุคคล สมาคมกีฬาทั่วไป สมาคมทั่วไป ที่ทำกิจกรรมมวยไทย ต้องมาตาม IFMA แต่ผมอยากให้ศึกษาเส้นทางการเชื่อมท่านทั้งหลายกับโลกมวยไทยที่ IOC รับรอง มันต้องผ่าน IFMA ตามกฎของ IOC สิ่งนี้ ผมพยายามมาหลายปี ให้ IOC รับรอง IFMA และกีฬามวยไทย และผมก็ทำสำเร็จแล้ว เหลือแต่ทำอย่างไรให้พวกท่านทั้งหลาย เข้าใจบทบาทของกีฬามวยไทย ที่กำกับโดย IFMA ในเวทีโลกเข้าใจ และมาร่วมมือกับผมอย่างจริงจัง และไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เพราะเราคนไทย เรามีหน้าที่รักษา ส่งเสริม กีฬามวยไทยร่วมกัน” ดร.ศักดิ์ชาย กล่าวทิ้งท้าย