จากกรณีที่มีคนร้ายจ่อยิง นายอดุลย์ สุพันคุ้ม อายุ 41 ปี ชาวอำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย เสียชีวิตกลางทุ่งนาขณะออกไปเผาถ่าน ท้ายหมู่บ้านแสงพิสัย ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย เมื่อช่วงสายวันที่ 28 เม.ย.67 ซึ่งตำรวจ สภ.โพนพิสัย ยังไม่ทราบชนวนเหตุสังหารในครั้งนี้

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ญาติได้นำร่างของนายอดุลย์ ผู้เสียชีวิต บรรจุใส่โลง ตั้งสวดอภิธรรมศพ ณ วัดป่าบ้านโพธิ์ (วัดป่าเทพธิดาราม) 1 คืนและจะทำการฌาปนกิจในวันที่ 29 เมษายน 2567 ซึ่งมีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวมาร่วมงานศพท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจและตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางหนูจีน สุพันคุ้ม อายุ 63 ปี แม่ผู้ตาย (เสื้อแดง) กล่าวด้วยความเศร้าเสียใจว่า ลูกชายเป็นคนไม่มีศัตรู ไม่ค่อยทะเลาะกับใคร เวลาไปทำงานก็มีแต่เสียสละให้ผู้อื่น หลังจากเลิกรากับภรรยาแล้ว ก็พาลูกชายมาอยู่บ้านกับแม่ ทำงานเกษตร สวนยางพาราและตัดฟืนเผาถ่าน เมื่อเช้าหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็ออกไปทำงานตามปกติ ไม่มีลางบอกเหตุอะไร จนกระทั่งมาเกิดเหตุ แปลกใจว่าเปลนอนที่ผูกไว้ใต้ถุนกระท่อมนา จะมีรองเท้าแตะคนละข้างกันอยู่ข้างเปล ลักษณะเหมือนมีคนมาขึ้นคร่อมเปล แล้วอาจจะเกิดการทะเลาะวิวาท ชกต่อยจนลูกชายตนวิ่งออกจากเปล ไม่ได้ใส่รองเท้า และถูกยิงล้มอยู่ใกล้กับเสารั้วล้อมที่นากับเพื่อนบ้านที่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อน แต่ไม่ได้รุนแรง และตนก็คิดจะซ่อมรั้วให้อยู่ก่อนแล้ว ตนติดใจประเด็นว่าคนก่อเหตุจะไม่พอใจเรื่องใดบางอย่างจึงมาทำลูกชาย อยากให้คนที่ก่อเหตุได้รับโทษ เพราะการสูญเสียมันเจ็บปวด สาเหตุที่ลูกชายตายมันคุ้มกันหรือไม่ เขามีลูกหรือไม่ การสูญเสียลูกมันเจ็บปวดมาก เหตุใดจึงโกรธแค้นกันขนาดนี้ อยากฝากให้คนก่อเหตุได้คิดอกเขาอกเรา เคยสูญเสียคนรักหรือไม่ เป็นคนได้อย่างไร ไม่อยากอยู่ร่วมโลกกันขนาดนี้เลยหรือ กรรมใดใครก่อก็ควรรับไป

ด้านน้องสาวบอกว่า พี่ชาย เป็นคนไม่ค่อยพูดมาก เป็นคนง่าย ๆ ตื่นเช้าออกไปทำงานในสวน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท เป็นพี่ที่แต่คนรัก ไม่คิดว่าจะเป็นภัยกับใคร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ อาจเป็นความขัดแย้งหรือปัญหาส่วนตัว ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด โดยจะเชิญญาติและผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม ประกอบกับในที่เกิดเหตุไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ โดยจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.