เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 เม.ย. พ.ต.อ.เจษฎาวิทย์  อินทร์ประพันธ์ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ร.อ.พงศกร เทพษร ผบ.ร้อย ปชด.ที่ 3 ร.ท.กลวัชร ตาวง ผบ.ร้อยปืนเล็กที่ 4 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและขว้างไปป์บอมบ์ รวมทั้งใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 33 ที่บริเวณทางออกฐานปฏิบัติการฯ ตั้งอยู่บ้านกวาลอซีรา หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 29 เม.ย. 67 ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

โดยจุดแรกพบที่โคนเสาไฟฟ้าด้านขวาทางออกของฐานฯ เสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. ไม่ทราบตัวจุดชนวนตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างจากโคนเสาไฟฟ้าประมาณ 15 เมตร พบรถยนต์กระบะหุ้มเกราะสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ  ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ นปพ.นราธิวาสที่ 33 เสียหลักตกไหล่ถนนอยู่ในสภาพถูกกระสุนปืน และสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุนเกือบทั้งคัน นอกจากนี้ที่บริเวณรายรอบจุดเกิดเหตุที่ 1 เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่ตกอยู่ทั่วบริเวณจำนวนกว่า 10 จุด และพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ของคนร้ายที่ไม่ทำงานตกอยู่บนถนนทางเข้าฐานฯ จำนวน 3 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลาย

จุดที่ 2 ที่บริเวณถนนสายตากใบ-สุไหงโก-ลก เยื้อง สนง.ขนส่งนราธิวาส สาขาสุไหงโก-ลก ซึ่งห่างจากจุดแรก 800 เมตร คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์ในการสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ในการสนับสนุน จุดที่ 3 ซึ่งห่างจากจุดที่ 2 บนถนนสายเดียวกันประมาณ 1 กม. คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบในการสกัดเจ้าหน้าที่ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ และจุดที่ 4 บริเวณป่ารกทึบตรงข้ามประตูทางออกจุดเกิดเหตุที่ 1 ซึ่งมีแม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของคนร้ายที่ใช้เส้นทางดังกล่าวมาบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกิ่งไม้หักและรอยเท้าเป็นทางยาวจำนวนมาก และพบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนกว่า 50 ปลอก รวมทั้งสลักนิรภัยของระเบิดไปป์บอมบ์ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายจำนวนเกือบ 20 คน ได้แยกกำลังออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ กลุ่มที่ 1 ได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ที่บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าประตูทางออกของฐานฯ ด้วยการนำไปวางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า แต่ด้วยความเร่งรีบคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาสที่ 33 จำนวน 4 นายที่นั่งรถยนต์กระบะสี่ประตูเพื่อไปสับเปลี่ยนเวรยามที่จุดตรวจน้ำตก ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นก่อนที่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่จะวิ่งผ่าน แต่ด้วยความตกใจเจ้าหน้าที่จึงขับรถตกไหล่ทาง จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่และเจ้าหน้าที่ที่ฐานฯ ได้ออกมาสนับสนุนจึงถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ พร้อมทั้งขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ เพื่อสกัดกั้นการช่วยเหลือ จนทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นเวลานาน 15 นาที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.นราธิวาส 33 ที่นั่งมาบนรถกระบะ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จากลวดหนามที่ประตูทางออกเกี่ยวตามร่างกายขณะยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย

นอกจากนี้คนร้ายกลุ่มที่ 2 และ 3 ได้โปรยตะปูเรือใบ เพื่อสกัดการสนับสนุนให้การช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มูโนะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าให้การช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 4 ยืนคุมเชิงและบล็อกเส้นทาง อยู่ที่บริเวณทางเข้าของฐานปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตีวงโอบล้อมมาให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ 4 นายที่ถูกลอบวางระเบิดและยิงถล่ม ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายชุดที่ 4 ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณให้กลุ่มคนร้ายทั้งสามกลุ่ม ถอนกำลังเพื่อหลบหนี โดยคนร้ายกลุ่มที่ 1 ได้หลบหนีข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 2-4 ได้หลบหนีด้วยจยย. ที่เตรียมมาโดยชาวบ้านละแวกจุดเกิดเหตุพบเห็นคนร้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำมีอาวุธปืนครบมือหลบหนีไปทาง อ.ตากใบ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย ถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.สุไหงโก-ลก ในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีอาการไม่สาหัสมากนัก ซึ่งเป็น ผบ.หมู่ นปพ.นราธิวาสที่ 33 ประกอบด้วย 1. ส.ต.ท.สัตดุสิต สมกำลัง (โดนลวดหนาม) อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 86/3 หมู่ 9 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง 2. ส.ต.ท.พีรชัช เข็มเพ็ชร์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 262 หมู่ 15 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 3. ส.ต.ต.ชนินทร์ บุญสนอง (โดนลวดหนาม) อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 138 หมู่ 7 ต.นากะชะ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช 4. ส.ต.ท.ณัฐภัทร ทิตย์พรมทอง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่  11/2 หมู่ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้มีคำสั่งให้มีการปิดช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งเขตรอยต่อ อ.ตากใบ และ อ.แว้ง ทั้งหมดเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมและป้องกันชายแดนในพื้นที่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ลงลาดตระเวนควบคุมพื้นที่รวมทั้งลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทางที่กลุ่มคนร้ายลอบข้ามแดนเข้ามาเคลื่อนไหวก่อเหตุร้าย ซึ่งเป็นมาตรการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย