เมื่อวันที่ 29 เม.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับสาวมอญ แม่ของลูกน้อยวัย 8 เดือน ที่ถูกเมียเก่าของสามีมาสาดน้ำกรด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้ทางการไทย ไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ แม้จะรู้ตัวแล้วก็ตาม โดยผู้เสียหายมาร้องกับ กัน จอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ
เกตี สาวชาวมอญ วัย 27 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนอาศัยอยู่ที่เมียนมา เดินทางมาไทยเพื่อจะหางานทำ โดยว่าจ้างรถของชายชื่อ ตีฮะ ให้มาส่ง ปรากฏว่า ตีฮะ ไม่ได้พาไปส่งตามที่คุยกัน กลับพาตนเข้าโรงแรมแล้วบังคับขืนใจ จากนั้นบอกว่าชอบเรา จะให้เรามาอยู่กินเป็นภรรยาของเขา ด้วยความที่เรากลัวเขา และกลัวว่าจะตั้งท้อง จึงต้องยอมอยู่กับเขา อย่างน้อยมีสามีจะได้เลี้ยงดูลูกที่เกิดมา
แต่ระหว่างที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ภรรยาเก่าของตีฮะ ที่ชื่อว่าซอน ก็ทักมาราวีตลอด เริ่มจากเขาพยายามติดต่อตีฮะ แต่ตีฮะไม่รับสาย แล้วเอาเฟซบุ๊กของเกตี ทักไปหาซอน บอกว่าเป็นเมียใหม่ของตีฮะ เลิกมายุ่งกับตีฮะได้แล้ว ยิ่งทำให้ซอนโกรธยิ่งขึ้น
ซอนทักมาข่มขู่ต่างๆ นานา บอกว่าจะตามมาเอาชีวิต ส่วนความสัมพันธ์ของเกตี กับตีฮะ ก็ไม่ดีเลย ทำให้เกตีหนีออกจากบ้าน จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้แล้ว ด้วยความกลัว หนีไปอยู่สุพรรณฯ ก็โดนตามกลับ หนีไปอยู่มหาชัย ก็โดนตามง้อขอกลับมา บอกว่าจะดูแลลูกอย่างดี
จนกระทั่งเกตียอมกลับไปอยู่กับตีฮะ ที่สังขละบุรี โดยอยู่ที่ห้องเช่าฝั่งเมียนมา ที่เจดีย์สามองค์ วันดีคืนดี ซอนบุกเข้ามาในบ้าน ขณะที่ตนนั่งหันหลังอาบน้ำให้ลูกอยู่ เขาเข้ามาทางด้านหลัง แล้วเอาน้ำกรดเทราดศีรษะตน ตนกรีดร้องทรมาน แต่พยายามเอาตัวบังลูกน้อยอายุแค่ 2 เดือน ไม่ให้น้ำกรดโดนลูก แต่สุดท้ายเขาก็เอาน้ำกรดที่เหลือไปเทราดลูกอยู่ดี ลูกน้อยนอนหงายอยู่ รับน้ำกรดเต็มๆ หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าแม่ ตาบอดทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งบอดสนิทไปแล้ว อีกข้างหนึ่งยังมีหวังจะกลับมามองเห็นได้ หากได้รับการเปลี่ยนกระจกตา
เตกีและลูกนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน พอรักษาตัวหายดี ทักไปขอเงินสามีคือ ตีฮะ เพื่อจะออกมาเปิดห้องอยู่กับลูก แต่ตีฮะ ตอบว่า “ไม่รู้” แล้วหายไปเลย ทราบว่าตอนนี้เขามีเมียใหม่ไปแล้ว สุดท้ายต้องทักมาขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง
ขณะที่ กัน จอมพลัง บอกว่า ตอนนี้หญิงชื่อ ซอน ยังอยู่ในประเทศไทย แต่ตำรวจไทยจับกุมไม่ได้ โดยทนายแก้วบอกว่า เมื่อเหตุไม่ได้เกิดในราชอาณาจักรไทย ไปเกิดที่ฝั่งเมียนมา จะใช้กฎหมายไทยจับกุมไม่ได้
โดย กัน จอมพลัง บอกว่าตอนนี้ต้องทำควบคู่กัน ทั้งการช่วยเหลือแม่และเด็ก ไปพร้อมการประสานทางสถานทูตเมียนมา ให้ประสานส่งเรื่อง ส่งคดีมาทางไทย เพราะทางการไทย ตำรวจไทย อยากจะจับกุมหญิงคนนี้เหลือเกิน แต่ยังจับไม่ได้
รศ.นพ.สุรจิต อาวสกุลสุทธิ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ประเมินค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา เกตี ให้กลับมาใกล้เคียงเดิม ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ รวมการย้ายเนื้อ การปลูกถ่ายใบหูใหม่ ถ้าเป็นคนไทย รักษาได้ฟรีได้เลย แต่ทางเคสนี้เป็นคนต่างด้าว ทำให้มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน รวมๆ ก็น่าจะหลักล้านบาท แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐ ก็น่าจะมี 5-6 แสน
แต่ตัวลูกน่าจะลำบากมาก เพราะเด็กเนื้อเยื่อบาง แล้วเขาโดนโดยตรง สิ่งที่ต้องรักษาก็คือ ระบบทางเดินหายใจ แล้วก็มีดวงตา เปลือกตา แก้วตา ยิ่งทำในเด็กจะไม่เหมือนผู้ใหญ่ เพราะหากแก้ไข ผ่าตัดแล้วต้องไปปิดตาให้เขา เขาก็จะสูญเสียการมองเห็น สูญเสียพัฒนาการไป
ขณะที่ กัน จอมพลัง บอกว่า หลังจากที่รับเคสนี้มา ก็ยังลังเลว่าจะเปิดรับบริจาคดีไหม ถ้าให้เปิดก็จะเป็นบัญชีที่อยู่ใต้การดูแลของ พม. แต่ระหว่างที่รอ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันมาหลากหลายคน ทำให้ตอนนี้แม่ลูกได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นพอสมควรบ้างแล้ว หลังจากนี้ จะเป็นการประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือในประเด็นระหว่างประเทศต่อไป
