จากกรณีปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่ง เข้าช่วยราชการฯ หลังจากมีข่าวหนุ่มก้ามปูชายคนสนิท บุกทำร้ายภรรยาหลวงคาบ้านพัก

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 เม.ย. โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายในบ้านพักรองผู้ว่าฯ ซึ่งผู้เสียหายเป็นภรรยาของรองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นสามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมานาน 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ขณะที่ชายผู้ก่อเหตุ ซึ่งรองผู้ว่าฯ บอกคนรอบตัวและสังคมว่าเป็นเพียงแค่บุตรบุญธรรม ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน

โดยมีข้อมูลในการลงบันทึกประจำวัน ลงวันที่ 12 เมษายน 2567 ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงก่อนสงกรานต์ วันที่ 9 เมษายน 2567 ผู้เสียหาย (ภรรยารองผู้ว่าฯ) ได้เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด และได้เข้าไปที่บ้านพักของสามี เวลาประมาณ 08.10 น. โดยได้เดินขึ้นไปชั้น 2 ของบ้านพักหลังดังกล่าว และเดินเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของสามี เพื่อต้องการพูดคุยในเรื่องส่วนตัว ซึ่งขณะนั้นสามีอยู่ในห้องน้ำที่อยู่นอกห้องนอน

หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินขึ้นไป ตามเข้ามาในห้องนอน ก่อนปิดล็อกกลอนประตู และเริ่มใช้กิริยาท่าทาง พร้อมคำพูดที่หยาบคาย ทักว่า “อี…ช่วงนี้มาบ่อย” จากนั้นก็ใช้กิริยา และคำพูดในลักษณะที่ไม่สุภาพ หยาบคาย คล้ายกับมีอาการหึงหวงสามีของผู้เสียหาย

ซึ่งเป็นการกระทำที่ดูแล้วว่าไม่เหมาะสม และผิดวิสัยสถานะพ่อกับบุตรบุญธรรม ตามที่สามีกล่าวอ้างไว้ต่อผู้เสียหายและสังคม ต่อมาได้ใช้กำลังทำร้าย ใช้ปากกัดเข้าที่บริเวณข้อศอกข้างซ้าย จับตัวเหวี่ยงไปชนกับฝาผนังข้างห้อง ใช้มือดึงศีรษะอย่างแรง และจับตัวเหวี่ยงไปจนสุดแรง จนเสียหลักล้มลงไปนอนที่พื้นและขังไว้ในห้อง

จนผู้เสียหายตั้งสติได้ และลุกขึ้นออกไปเคาะหน้าต่างเพื่อขอความช่วยเหลือจากบุคคลในบ้านให้ช่วยเหลือมาเปิดประตูห้องให้ออกไป ซึ่งก็มีหลาน ๆ และสมาชิก อส. เข้ามาช่วยเปิดประตูห้อง เพื่อให้ผู้เสียหายออกมา โดยชายคนสนิทรองผู้ว่าฯ ยังไม่หยุด ได้มีการพูดจาข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธมีดทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ผู้เสียหายจึงบอกว่า หากทำร้ายตนกับบุตรชาย จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธหนัก พูดว่า “…ไม่ต้องเสนอหน้ามาอีก และงานกาชาดก็ไม่ต้องมา หากเจอก็จะตบและเอาเรื่องให้ถึงตาย”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข้อมูลพบว่า ชายคนสนิทรองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เป็นข้าราชการสังกัดในหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเดียวกันที่รองผู้ว่าฯ คนดังกล่าว ดำรงตำแหน่ง