นายจรัญ คำเงิน รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากปีนี้ร้อนมาก หลายคนอาจเห็นว่าน้ำในลำน้ำมีปริมาณลดลง จึงมีการทำกิจกรรมกลางแม่น้ำ เช่น ซักผ้า ล้างรถ เมื่อมีน้ำไหลมาโดยมิทันระวังตัวอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ จึงขอให้ประชาชนติดตามแผนการระบายน้ำก่อนทำกิจกรรมต่าง ๆ ริมน้ำ โดยมาตรฐานทุกเขื่อนของ กฟผ. จะมีการแจ้งแผนระบายน้ำล่วงหน้าทั้งรายสัปดาห์และรายวันตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://water.egat.co.th รวมถึงช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ เช่น กลุ่มไลน์ของชุมชนและหน่วยราชการ ผู้ประกอบการที่อยู่รอบเขื่อนต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตามป้ายเตือนในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัดด้วยเพื่อมิให้เกิดอันตราย ดังเช่นกรณีเหตุการณ์รถยนต์ของชาวบ้าน 2 คัน ถูกน้ำในแม่น้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี ซัดลอยไปกลางลำน้ำ ณ บริเวณสะพานปรังกาสี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 17.20 น. ที่ผ่านมา ทางเขื่อนวชิราลงกรณมิได้ระบายน้ำกระทันหันแล้วทำให้น้ำแม่น้ำเพิ่มขึ้นสูงและไหลแรง

โดยทางเขื่อนได้แจ้งปริมาณน้ำและแผนการระบายน้ำล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ และแจ้งล่วงหน้าก่อนระบายน้ำทุกวัน ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวและกลุ่มไลน์ VRK Stakeholder ซึ่งในวันเกิดเหตุได้แจ้งเวลาระบายน้ำในเวลา 12.49 น. และแจ้งให้กลุ่มไลน์ดังกล่าวทราบเมื่อเวลา 12.50 น. ทั้งนี้ ระยะเวลาการไหลของน้ำจากเขื่อนใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงจึงจะถึงที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามเมื่อทางเขื่อนทราบเรื่องจึงหยุดเดินเครื่องให้ระดับน้ำลด เพื่อให้ทีมกู้ภัยสามารถผูกรถและลากขึ้นฝั่งได้ในวันรุ่งขึ้น (29 เมษายน 2567) เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว