นับเป็นเวลานานแล้ว ที่ร้านอาหารอินเดียทั่วโลก พึ่งพาตำราอาหารแบบโมกุล-ปัญจาบ ส่งผลให้มีการนำเสนอมรดกทางอาหารที่ผู้คนล้วนคุ้นชิน แต่ต้องขอบอก “นักชิม” ทั้งหลายว่า ตอนนี้มีร้านอาหารอินเดียแห่งใหม่ ที่พร้อมจะพาไปสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารที่มากกว่า “อาหารอินเดีย” ทั่วไป ซึ่งร้าน Tapori ในซอยสุขุมวิท 47 แสดงให้เห็นถึงมรดกตกทอดทางด้านอาหารของประเทศนี้ได้อย่างสมบูรณ์

คำว่า “Tapori” มีความหมายในภาษาฮินดีว่า “นักเดินทาง” หรือเป็นคำแสลง หมายถึง “คนที่น่ารัก ร่าเริง และมีประสบการณ์” คำนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางของ เชฟโรหิต ชาร์มา ผู้เป็นเจ้าของร้าน เพื่อเชิญชวนนักชิมให้สำรวจขุมทรัพย์ของอินเดียอันน่าทึ่งผ่านทั้ง 28 รัฐ และ 8 ดินแดนสหภาพ แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลและความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับอาหารอินเดีย เชฟโรหิต ชาร์มา เริ่มต้นจากการท่องไปทั่วประเทศอินเดีย เพื่อค้นหาสูตรอาหารแบบดั้งเดิมมาสร้างสรรค์ ภารกิจค้นคว้านี้ ทำให้มีฐานข้อมูลรายการอาหารที่มีค่ามากถึง 300 จาน โดย 29 รายการ เป็นเมนูที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรก

เชฟโรหิต ชาร์มา

“ศิลปะแห่งการปรุงอาหาร ไม่ใช่แค่การทำอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการบอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณ” ชาร์มากล่าว “ที่ Tapori เราเดินทางข้ามอินเดีย เพื่อช่วยเหลือบรรดาคุณยายและคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ประเพณีการทำครัวของเรา เราสำรวจรสชาติที่บ่งบอกถึงมรดกของเรา สำหรับเมนูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสูตรอาหารต้นตำรับซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อาหารแต่ละจานเป็นตัวแทนของรัฐหรือชุมชนแห่งหนึ่งของอินเดีย และเป็นบทหนึ่งในเรื่องราวของวัฒนธรรมอาหารของอินเดีย”

Siddu Vegetarian

เมนูที่นี่แบ่งออกเป็น “อาหารเรียกน้ำย่อย” และ “อาหารจานหลัก” เสิร์ฟในรูปแบบ จานเล็ก-จานใหญ่ รวมถึงการเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติในแบบดั้งเดิม สามารถสั่งอาหารผสมกันแบบใดก็ได้ เหมือนกันการรับประทานอาหารที่โต๊ะอาหารค่ำสำหรับครอบครัว อาทิ อาหารเช้าหลักจาก รัฐหิมาจัลประเทศ ดินแดนแห่งขนมปังนึ่งยัดไส้พริกและถั่วเลนมิล เสิร์ฟคู่กับงาพริกและน้ำจิ้มเมล็ดแฟลกซ์ ในชื่อเมนู Siddu Vegetarian”

Wahan Mosdeng

Kanava Masala Chaach

จานถัดมา “Wahan Mosdeng” เปิดประตูสู่ เมืองตริปุระ ด้วยสลัดหมูแบบดั้งเดิมพร้อมทิมูร์ (พริกไทยเสฉวนอินเดีย) หัวหอมสับละเอียด ขิง และผักชี รสชาติเหมือนยำ คลายร้อนกับเมนู “Kanava Masala Chaach” ปลาหมึกผัดสไตล์ รัฐอานธรประเทศ รสเผ็ด จับคู่กับกระเทียมรสเปรี้ยวและถั่วเลนทิล บัตเตอร์มิลค์เนื้อครีม เป็นเพื่อนคู่ใจในการคลายร้อนที่สมบูรณ์แบบ

Gobhi Musallam Vegetarian

Kheema Ghotala

รสชาติของอาหารประจำ “รัฐอุตตรประเทศ” อย่าง Gobhi Musallam Vegetarian” เมนูแบบคลาสสิกซึ่งชื่อนี้แปลตรงตัวว่า “ดอกกะหล่ำย่าง” เคลือบด้วยน้ำเกรวี่ครีม เครื่องเทศอินเดีย โรยหน้าด้วยบีทรูททั้งลูกย่างช้าๆ เสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ตมิ้นต์, นำความรู้สึกของคุณไปสู่รสชาติของวัฒนธรรมทาโปริที่แท้จริงของ มุมไบ เมนู “Kheema Ghotala” เนื้อแกะหรือเนื้อวัวสับรสเผ็ด จับคู่กับลาดิพาฟสุดคลาสสิก ซึ่งเป็นขนมปังอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง

Pork Vindaloo

Tawa-Masala Kaleji

อีกผลงานอันน่าทึ่ง แกงหมูรสเผ็ดร้อนที่มีต้นกำเนิดจากโปรตุเกส “Pork Vindaloo” จากตำราอาหารของครอบครัวแองโกลอินเดียน (Anglo-Indian) ใน เมืองโกลกาตา ตัวหมูนุ่มซอสเข้าเนื้อ เสิร์ฟพร้อมขนมปังอันโพอี จับคู่กันแล้วสุดแสนลงตัว ตบท้ายด้วย “Tawa-Masala Kaleji” ตัวแทนแห่ง กรุงนิวเดลีและรัฐทมิฬนาฑู ทิศเหนือมาบรรจบทิศใต้ ด้วยเมนูไอศกรีมตับไก่เครื่องเทศที่แหวกแนว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากฉากแต่งงานในเดลี เสิร์ฟบนเตียงแป้งโดซ่าครัมเบิลกรุบกรอบ … ทุกจานที่กล่าวมานี่เป็นเพียง “เสี้ยวหนึ่ง” ของการเดินทางข้ามประเทศอินเดียผ่านรสชาติอาหาร

ความมุ่งมั่นของร้านอาหาร ที่เน้นการบ่งบอกถึงความหลากหลายและความมีชีวิตชีวาของอินเดีย ไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่เรื่องอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งร้านอีกด้วย การตกแต่งภายในสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเจ้าของร้าน ที่ผสมผสานองค์ประกอบสมัยใหม่เข้ากับลวดลายสไตล์อินเดีย ซึ่งเป็นที่นิยมได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่หรูหราและอบอุ่น พร้อมให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและทันสมัยสวยงาม

“ประตูไม้โบราณอายุ 200 ปี” นำเข้าจากรัฐราชสถาน เพื่อมาใช้ตกแต่งภายในร้าน การตกแต่งนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อมรดกทางศิลปะอันมั่งคั่งของอินเดีย พร้อมกันนั้นยังมีคอลเลกชั่นงานศิลปะที่นำมาจากประเพณีทางวัฒนธรรมอันกว้างขวางของประเทศ ในขณะที่ขบวนพาเหรดช้างอินเดียหลากสีสัน ช่วยเติมเต็มความงดงามของรูปแบบการตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ จากลวดลายเรขาคณิตของศิลปะวารลี และลวดลายชนเผ่าของบาสตาร์ ไปจนถึงการเล่าเรื่องโดยละเอียดของศิลปะแบบมธุบานี ภาพโมเสกกระจกตัดด้วยมือรูปนกยูงสูงตระหง่าน เชื่อมช่องว่างระหว่างการออกแบบร่วมสมัยและศิลปะแบบดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน.

‘ช้องมาศ’