เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3 จับกุมนายชาญชัย พรมรุ่งโรจน์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 2/2567 ลงวันที่ 4 ม.ค. 67 พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาดยาว 18 เซนติเมตร 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 4 นัด, ปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 2 ปลอก, ซองหนังสีดำแบบมีซิปเปิด-ปิด 1 ซอง, กระเป๋าหนังสีดำแบบมีซิปเปิดปิด 1 ซอง กล่าวหาว่า “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว” โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาล ฝั่งขวาเลียบมอเตอร์เวย์ ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 เด็กสาว อายุ 14 ปี บุตรสาวของผู้เสียหาย ถูกผู้ต้องหาพาไปกระทำอนาจาร หลังผู้ปกครองสังเกตความผิดปกติจากบุตรสาว และเค้นถามจนทราบความจริง โดยปกติผู้เสียหายจะคอยดูแลบุตรสาวอย่างใกล้ชิดไปรับส่งที่โรงเรียน ส่วนพี่ชายจะคอยไปรับหลังเลิกเรียน โดยเหตุเกิดช่วงบ่าย 2 วันดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 66 ผู้ปกครองเดินทางไปส่งบุตรสาวที่โรงเรียนตามปกติ และมาทราบภายหลังว่า ถูกผู้ต้องหาพาลูกสาวหลบหนีไปตั้งแต่เวลา 09.00 น. ผู้ปกครองพยายามออกตามหาแต่ไร้วี่แววใดๆ เป็นเวลากว่า 5 เดือน และขอความช่วยเหลือกับสืบนครบาล ชุดสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้กบดานในพื้นที่ ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ทำงานในตำแหน่งคนงานก่อสร้าง ก่อนนำกำลังไปจับกุม เมื่อไปถึง นายชาญชัยเกิดไหวตัววิ่งหลบหนี มี พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ซึ่งอีก 5 เดือนจะเกษียณนำทีมชุดสืบวิ่งไล่ตามระยะทาง 200 เมตร จนกระทั่งจับตัวได้ทัน

นอกจากนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการหลบหนี-วิ่งหนีซึ่งหน้าจึงเข้าตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ โดยผู้ต้องหาให้การยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบ ปืนปากกา 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 นัด นอกจากนี้ยังพบเด็กสาวอายุ 14 ปีที่พ่อแม่กำลังตามหา จึงได้พาน้องไปที่โรงพักและติดต่อให้ผู้ปกครองมารับตัวน้องกลับไป

สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อช่วงเดือน มีนาคม 2566 ตนได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จากนั้นได้พบเจอกับเด็กสาว จากนั้นตนแอบคบหาโดยที่ไม่ให้ผู้ปกครองของเด็กสาวทราบ ระหว่างคบหาแบบหลบๆ ซ่อนๆ เด็กสาวดังกล่าวเรียนหนังสือที่โรงเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ม.2) ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนไปมาหาสู่ รับส่งระหว่างโรงเรียนมาห้องเช่าของตนเองจริง โดยต่อมาพ่อแม่ของเด็กสาวเริ่มจับได้ถึงความสัมพันธ์ จึงได้พาเด็กสาวหลบหนีไปอยู่ที่อื่นและหางานทำสร้างตัวด้วยกัน

เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลานของท่าน พยายามทำความเข้าใจกับตัวเด็ก และขอเตือนชายหัวงูนิยมหลอกเด็ก มีความผิด และโทษทางกฎหมาย และยังผิดศีลธรรมอีกด้วย หากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.