เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่าพรรคจะส่งชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น  ถือเป็นการประกาศชัดเจนต่อคนทั้งประเทศว่าถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ จะได้คนดี มีประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารรัฐกิจมายาวนานอย่างนายจุรินทร์มาดำรงตำแหน่งนายกฯ ขณะเดียวกัน ตนคิดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 100 คน และจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย โดยมีเหตุผล 4 ข้อ คือ1.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมี ส.ส.เขตเพิ่ม 50 คน ซึ่งในภาคใต้จะเพิ่มเขตเลือกตั้ง 5-6 เขต ถือเป็นโอกาสดีที่เราคาดว่าน่าจะได้ ส.ส.ในภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 40 คน

นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า 2.การทำงานของรัฐมนตรีของพรรค 7 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายจุรินทร์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ในเรื่องนโยบายประกันรายได้เกษตรกร เป็นการช่วยเหลืออย่างตรงจุด และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการค้าและการส่งออกของไทยมีตัวเลขสูงท่ามกลางโรคโควิด-19 3.บทบาทของ ส.ส.ในสภาฯ แม้พรรคจะมี ส.ส.เกินครึ่งร้อยมาเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อเป็นปากเสียงให้กับประชาชนและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศยังเข้มข้นเหมือนเดิม รวมทั้งทุกฝ่ายให้การยอมรับต่อบทบาทของนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาฯ ว่าสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง และสร้างภาพลักษณ์ของสภาฯที่ดีให้กับประชาชน ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งที่แล้ว ส่วนใหญ่ยังร่วมทำงานในเขตเลือกตั้งอย่าสม่ำเสมอ

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า และ 4.พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจของคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรคเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคที่เก่าแก่ที่สุดของไทย ได้ทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และเสนอความคิดเห็นใหม่ๆ อย่างหลากหลาย ซึ่งตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่เหมือนกับบางพรรคที่โฆษณาว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แต่สุดท้ายกลับใช้วิธีเดิมๆ