ถือเป็นงานอีเวนต์ด้านเทคโนโลยี ที่จัดใหญ่ในไทย เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับงาน “Microsoft Build: AI Day”

ที่ใหญ่และสำคัญก็เพราะว่า มีซีอีโอระดับโลกอย่าง “สัตยา นาเดลลา” ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอของไมโครซอฟท์ มาร่วมงาน ถือเป็นกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 8 ปี

หลังจากที่เคยมาเยือนประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 59 ในงาน Thailand Developer Day 2016 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ มีนักพัฒนาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน และในครั้งนั้น ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ก็ได้ประกาศสนับสนุน และสร้างศักยภาพให้กับชุมชนนักพัฒนาในประเทศไทย!?!

นอกจากนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้มาร่วมงาน และขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บทเวทีด้วย ท่ามกลางนักพัฒนาและผู้นำจากภาคธุรกิจและเทคโนโลยีในประเทศไทยกว่า 2,000 คน เข้าร่วมงาน

ซึ่งผ่านมา 8 ปี มีอะไรใหม่ๆ จาก ซีอีโอ ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ระดับโลก วันนี้ คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีข้อมูลมาบอกกล่าวกัน!!

งานเริ่มด้วยการขึ้นเวทีกล่าวคีย์โน้ต ถึงโอกาสใหม่ๆ จากเทคโนโลยี AI พร้อมผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ ที่สามารถรองรับนักพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มกิตฮับ (GitHub) ไมโครซอฟท์ 365 Copilot และ Microsoft Azure แพลตฟอร์ม Cloud Computing เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้บอกว่าประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นและโอกาสในการสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและเอไอ โดยไฮไลต์ที่สำคัญที่เรียกเสียงตบมือจากผู้เข้าร่วมงานก็คือ การที่ “สัตยา นาเดลลา” ได้ประกาศตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในประเทศไทย!!

แต่สิ่งที่แอบน่าเสียดาย คือ ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะใช้งบลงทุนเท่าไร และจะก่อสร้างเมื่อไหร่ แล้วเสร็จในปีไหน!?!

ไม่เหมือนก่อนหน้าหนึ่งวันที่ ผู้นำสูงสุดของไมโครซอฟท์ จะเยือนไทย ได้ไปแวะประเทศอินโนนีเซีย และได้ประกาศลงทุนกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 63,000 ล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า ในการสร้างศูนย์ข้อมูล เพื่อขยายบริการคลาวด์ และเอไอ!?!

ขณะที่การไปเยือนมาเลเซีย หลังจากมาไทย ก็ได้ประกาศลงทุน 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 81,100 ล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า ในด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และคลาวด์คอมพิวติ้ง

แม้จะไม่มีตัวเลขในไทย แต่ทางไมโครซอฟท์ยืนยันว่าจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ สำหรับคลาวด์และเอไอ รวมถึงการเสริมสร้างทักษะด้านเอไอ เพื่อช่วยให้องค์กรไทย ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนเติบโต ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ที่อินโดนนีเซีย ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศเป้าหมายที่จะช่วยสนับสนุนให้ประชากรกว่า 2.5 ล้านคน จากประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกฝนทักษะด้าน เอไอ ซึ่งเป็นการจัดขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร

และการมาไทยในครั้งนี้ ก็ประกาศในเบื้องต้น มีแผนเสริมทักษะ ช่วยยกระดับความสามารถด้านเอไอ ให้กับคนไทยกว่า 100,000 คน!!!

ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ AI Skills for the AI-enabled Tourism Industry มุ่งเสริมทักษะด้าน AI ให้กับผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ที่จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน สถาบันฝึกอบรมอาชีวศึกษาด้านเทคโนโลยี และไมโครซอฟท์ ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพ ให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวในเมืองรองทั่วประเทศ

โครงการนี้มุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถด้านการใช้งาน AI เพื่อภาคการท่องเที่ยวของผู้ฝึกสอน 500 คน จากสถาบันฝึกอบรมอาชีวศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยผู้ฝึกสอนเหล่านี้จะนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปเผยแพร่ ให้กับเยาวชนและคนทำงานรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม

โครงการ AI Skills for the AI-enabled Tourism Industry เป็นโครงการต่อยอดกิจกรรมด้านทักษะ และการเรียนรู้ที่ไมโครซอฟท์ได้จัดขึ้นในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Accelerating Thailand, ASEAN Cyber Security Programme, Code; Without Barriers และ Junior Software Developer Program

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังจะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิดในการสนับสนุนนโยบาย “Cloud First” ของภาครัฐ ด้วยโครงการพัฒนาทักษะด้าน AI สำหรับข้าราชการและนักพัฒนาที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐด้วย

สำหรับในส่วนชุมชนนักพัฒนาในประเทศไทย ผ่านโครงการและกิจกรรมอย่าง AI Odyssey ที่มุ่งสนับสนุน ให้นักพัฒนาชาวไทยกว่า 6,000 คน ยกระดับทักษะความสามารถขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน เอไอ ด้วยทักษะใหม่ๆ และการรับรองจากไมโครซอฟท์

“สัตยา นาเดลลา” บอกด้วยว่า ประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของ GitHub แพลตฟอร์มที่มีไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับนักพัฒนาทั้งในการเขียนโค้ด ประสานงาน และสร้างสรรค์นวัตกรรมนั้น โดยในปี 66 ที่ผ่านมา มีนักพัฒนาในประเทศไทยรวมกว่า 900,000 ราย ที่ใช้งาน GitHub คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

จากข้อมูล งานวิจัยโดยบริษัทที่ปรึกษา Kearney คาดการณ์ว่า AI จะช่วยเพิ่มมูลค่า GDP ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ราว 37,000 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573

โดยคิดเป็นยอด GDP ของประเทศไทยที่จะเพิ่มขึ้นถึง 117,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท!!

อย่างไรก็ตามในมุมของภาครัฐนั้น ทาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า ประเทศไทย มีความพร้อมสนับสนุนให้อุตสาหกรรม เอไอ เติบโตในไทยอย่างเต็มที่ เพราะไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค รวมถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ครอบคลุมที่สุด โครงข่ายมือถือ 5G และโครงข่ายเคเบิลใต้ น้ำระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันรัฐบาล ก็มีวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND” ในการเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคใน 8 อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล การท่องเที่ยว สุขภาพและการแพทย์ อาหาร การบิน ยานยนต์แห่งอนาคต และการเงิน เพื่อให้ไทย ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล ของภูมิภาคและโลก

ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของยักษ์ไอทีอย่าง “ไมโครซอฟท์” ที่จะช่วยให้ประเทศไทย ไปบรรลุเป้าหมายในอนาคตข้างหน้า !?!

Cyber Daily