ฉะนั้นสนามเลือกตั้งเล็ก เป็นเส้นทางท้าพิสูจน์ความนิยมของพรรคเพื่อไทย และวัดบารมีของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังมีมนต์ขลังอยู่อีกหรือไม่ หลังลงทุนลงมากำกับคิวเอง เพื่อกอบกู้สถานการณ์พรรคเพื่อไทย ให้กลับมาครองใจคนไทยอีกครั้ง 

โดยเฉพาะแคมเปญ “10 เดือนไม่รอ ไปต่อเพื่อไทย” ปลุกลุยศึกนายก อบจ. ตั้งเป้ากวาดเรียบพื้นที่ “เหนือ-อีสาน” เดิมพันกระแสความนิยมท้าชนกับพรรค “ก้าวไกล” งานนี้ ”เพื่อไทย“ เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม น้องชาย “เสี่ยโจ้-ยุทธพงศ์” จรัสเสถียร อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีต สส.มหาสารคาม “เสี่ยเปิ้ล-พลพัฒน์” จรัสเสถียร ลงสมัครนายก อบจ.มหาสารคาม 

เป็นจังหวัดแรก ซึ่งถือเป็นพื้นที่บ้านเกิด และฐานที่มั่นทางการเมืองของนายยุทธพงศ์

“เสี่ยเปิ้ล-พลพัฒน์” จรัสเสถียร เป็น 1 ใน 9 ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ค่ายเพื่อไทย ในพื้นที่สีแดง ที่เปิดตัวในงาน ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ นอกจากนี้ ยังมีนายก อบจ. อีกหลายจังหวัด ที่สวมเสื้อเพื่อไทยหลายจังหวัด ทั้งบ้านใหญ่เมืองเหนือ บ้านใหญ่ภาคอีสาน ซุ้มที่ราบสูง เรียกว่าเลือกตั้งรอบนี้มีแต่ “อภิมหาบ้านใหญ่“ วิ่งเข้าสู่ถนนเลือกตั้งท้องถิ่น อีเวนต์ใหญ่โชว์ออฟ แสดงศักยภาพครบเครื่องทุกองคาพยพ เปิดตัวสายเลือดใหม่เพื่อไทยเริ่มเบ่งบาน 

งานนี้ “เพื่อไทย” ทุ่มสุดตัว เดินเครื่องฝ่าด่านแรงต้าน “ค่ายสีส้ม” ที่นับวันไม่มีวันแผ่วลง เนื้อหอม ได้รับความนิยมจาก “นักเลือกตั้งท้องถิ่น” หวังใช้แบรนด์สีส้มชิงเก้าอี้นายก อบจ. สร้างปรากฏการณ์ “ส้มทั้งแผ่นดิน” ทั้ง “คนรุ่นใหม่” ที่ยื่นความจำนงสมัครชิงเก้าอี้ท้องถิ่นในนาม “ก้าวไกล” แล้ว ยังมีนักการเมืองสายพันธ์ุ “บ้านใหญ่”

ที่ประเมินแล้วว่ากระแสสีส้มไม่มีลด โอกาสชนะการเลือกตั้งมีสูง ใช้ทุนการเมืองไม่มาก แต่ผลตอบแทนค่อนข้างสูง

ยกแรกเดิมพันสูงทั้ง “นายกฯ เศรษฐา” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ “หัวหน้าอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เปิดเวทีภาคอีสานเป็นพื้นที่แรก เพราะสมรภูมินายก อบจ. ภาคอีสาน ถือเป็นสมรภูมิการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุด ฉะนั้นพรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องคัดนายก อบจ. เกรดเอ ลงสนามป้องกันแชมป์ เพื่อการันตีชัยชนะ เพราะประเมินแล้ว อภิมหาบ้านใหญ่ยังเหนือกว่าก้าวไกลมาก 

นาทีนี้ สนามการเมืองเลือกตั้งท้องถิ่นดุเดือด “การเมืองเก่า” ต่อสู้กับ “การเมืองใหม่” ชิงเก้าอี้การเมืองท้องถิ่น ฉะนั้นจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องเปิดเกมรุก ชิงเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. ก่อนแบบไม่มีกั๊ก ไม่มีปิด เพราะบางพื้นที่ถือเป็นสนามช้างชนช้างที่น่าจับตา มีทั้งคนเก่าและคนใหม่ ดังนั้นเพื่อแก้เกม จำเป็นต้องดึงบ้านใหญ่ ซุ้มใหญ่ ตรึงพื้นที่ท้องถิ่นเอาไว้ให้ได้ ปูทางสู่การเลือกตั้งระดับประเทศที่จะเกิดในอนาคต.