สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า อินเดีย “ไม่ใช่ประเทศที่ต่อต้านหรือดูหมิ่นชาวมุสลิม” การกล่าวหาของฝ่ายค้านมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น


การตอบโต้ของผู้นำอินเดียเกิดขึ้น หลังพรรรคคองเกรสซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านอินเดีย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อเดือนที่แล้ว ว่าโมดีหาเสียงด้วยการบิดเบือนความจริง การมีเจตนาสร้างความแตกแยก และความเกลียดชังทางศาสนา ด้วยการพุ่งเป้าปรามาสพลเมืองบางกลุ่มอย่างเจาะจง ถือเป็นการละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง


ทั้งนี้ พรรคคองเกรสอ้างว่า ในระหว่างที่ผู้นำอินเดียลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง ที่รัฐราชสถาน ทางตอนเหนือของประเทศ ว่าพันธมิตรฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคคองเกรส “ยกย่องสิทธิของพลเมืองอินเดียเชื้อสายมุสลิม อยู่เหนือความรุ่งเรือง และการพัฒนาบ้านเมือง”


ขณะเดียวกัน โมดีกล่าวว่า หากพรรคคองเกรสชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ งบประมาณของรัฐจะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับครัวเรือนที่มีบุตรมากกว่า และ “ผู้ที่แทรกซึมเข้ามาในอินเดีย” ซึ่งบรรดาฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมองว่า เป็นการสื่ออย่างมีนัยถึงชาวมุสลิมในประเทศ


อนึ่ง อินเดียอยู่ระหว่างการเลือกตั้งทั่วไปแบบมาราธอน ซึ่งเป็นการแบ่งการลงคะแนนตามภูมิภาค ระหว่างวันที่ 19 เม.ย.-1 มิ.ย. เพื่อเลือกสมาชิกชุดใหม่ทั้ง 543 ที่นั่งของโลกสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ที่ราว 968 ล้านคน ถือเป็นการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตย ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก และแทบทุกฝ่ายคาดการณ์ไปในทางเดียวกัน ว่าพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของโมดี จะได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน.

เครดิตภาพ : AFP