เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “iPad” ใหม่  ของ Apple หลังจากที่ไม่ได้เปิดตัว รุ่นใหม่มา 2 ปีแล้ว!! มาครั้งนี้ “Apple Event มีความพิเศษ นอกจากการงานเปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ที่มีเฉพาะสื่อของสหรัฐอเมริกาแล้ว  ครั้งนี้ยังได้จัดงานอีเวนท์เปิดตัวที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วย โดยเชิญสื่อจาก ยุโรป และเอเชีย มาร่วมงานเปิดตัวที่กรุงลอนดอน

ซึ่งงานในปีนี้นอกจากจะมีการเปิดตัว iPad Pro  ที่ถือว่า มีจอภาพที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก แล้ว ยังมีการเปิดตัว iPad Air รวมถึง ชิป M4 และ Apple Pencil Pro ด้วย มาดูที่พระเอกของงาน iPad Pro  มีสเปกอะไรบ้าง?

 มีให้เลือก 2 สี 2 นาด

iPad Pro  รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2024 มี 2 สี คือ  สีเงินและสีดำสเปซแบล็ค  และมี สองขนาด คือ  รุ่น 13 นิ้ว ที่ใหญ่เต็มตา และรุ่น 11 นิ้ว สามารถพกพาได้สะดวกสุดๆ

บางเบาที่สุด

Apple เครมว่า iPad Pro ใหม่นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ Apple  ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยรุ่น 11 นิ้ว บางเพียง 5.3 มม. ส่วนรุ่น 13 นิ้ว บางยิ่งกว่าที่ 5.1 มม.  โดยรุ่น 11 นิ้ว มีน้ำหนัก 446 กรัม ไม่ถึง 500 กรัม ส่วนรุ่น 13 นิ้ว มีน้ำหนัก 582 กรัม เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึงประมาณ 100 กรัม  โดยที่ตัวเครื่องของทั้งคู่ทำมาจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%

หน้าจอ

ทั้งสองรุ่น ถือว่าล้ำหน้าสุดๆ จอภาพ Ultra Retina XDR ใหม่ที่พลิกวงการด้วยเทคโนโลยี OLED สองชั้นสุดล้ำที่ใช้แผง OLED สองแผง และรวมแสงจากทั้งสองแผงเข้าด้วยกันเป็นความสว่างแบบเต็มหน้าจอในระดับ จึงสามารถรองรับความสว่างเต็มหน้าจอสูงถึง 1,000 นิต สำหรับคอนเทนต์ SDR และ HDR และมีความสว่างเฉพาะจุดสูงสุด 1,600 นิต ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ไหนจะมีช่วงไดนามิกที่กว้างถึงขีดสุดในระดับนี้ได้ 

ชิบใหม่

iPad Pro  ที่เปิดตัวใหม่นี้ มาพร้อมกับชิป M4 ใหม่  ซึ่งเป็น Apple Silicon เจเนอเรชั่นถัดไปที่อัดฉีดประสิทธิภาพให้แรงขึ้นแบบก้าวกระโดด ชิป M4 สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2  ที่เร็วกว่าชิป M2 ใน iPad Pro รุ่นก่อนหน้าสูงสุด 1.5 เท่า

นอกจากนี้ ชิป M4 ยังสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม GPU ของชิป M3 นั่นคือ GPU แบบ 10-core ที่มีคุณสมบัติอันทรงพลังอย่าง Dynamic Caching รวมถึงเรย์เทรซซิ่งและการให้แสงเงาแบบเมชที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งวันนี้มาอยู่บน iPad เป็นครั้งแรก และเมื่อรวมเข้ากับแบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวมที่สูงขึ้นแล้ว ทำให้แอปด้านการเรนเดอร์ระดับโปรอย่าง Octane ทำงานได้เร็วกว่าชิป M2 สูงสุด 4 เท่า

 และชิป M4 ยังมีประสิทธิภาพต่อวัตต์เพิ่มสูงขึ้นมากจนอยู่ในชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมอีกด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับชิป M2 แล้ว ชิป M4 มีประสิทธิภาพในระดับเดียวกันโดยใช้พลังงานเพียงแค่ครึ่งเดียว และเมื่อเทียบกับชิป PC ในแล็ปท็อปที่บางเบาแล้ว ชิป M4 มีประสิทธิภาพในระดับเดียวกันโดยใช้พลังงานเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น  และยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นใหม่สุดล้ำที่รองรับการถอดรหัส AV1 จึงสามารถเล่นวิดีโอความละเอียดสูงจากบริการสตรีมมิ่งในแบบที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น

ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยเฉพาะในเรื่องของ AI ด้วย Neural Engine แบบ 16 คอร์ ที่สามารถประมวลผลได้ 38 ล้านล้านรายการต่อวินาที ช่วยให้ AI ทำงานได้เร็วขึ้น ทั้งการปรับแต่งรูปภาพ และการตัดต่อวิดีโอ

กล้องระดับโปร

ระบบกล้องใน iPad Pro ได้รับการอัปเดตให้มีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น และยิ่งมีระบบเสียงที่เต็มอิ่มจาก ไมโครโฟน 4 ตัวคุณภาพระดับสตูดิโอผู้ใช้จึงสามารถถ่าย ปรับแต่ง และแชร์ทุกอย่างได้จากอุปกรณ์เครื่องเดียว กล้องหลังความละเอียด 12MP ถ่ายภาพและวิดีโอด้วยคุณสมบัติ HDR อัจฉริยะได้อย่างสวยสดงดงาม

ราคาจำหน่าย

 iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว

 ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi

ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว

ราคาเริ่มต้นที่ 52,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi

ราคาเริ่มต้นที่  60,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

ราคาส่งเสริมการศึกษา

iPad Pro รุ่น 11 นิ้วใหม่อยู่ที่ 35,900 บาท และสำหรับ iPad Pro รุ่น 13 นิ้วใหม่อยู่ที่ 48,800 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ทาง Apple ยังไม่มีการประกาศวันเปิดจองและวางจำหน่ายว่าจะเป็นวันใด

เปรียบเทียบ iPad Pro M4 (2024) รุ่นใหม่  กับ iPad Pro M2 (2022) รุ่นเก่า

ขนาดเครื่อง

 iPad Pro M4 ตัวเครื่อง บางเพียงแค่ 5.1 – 5.3 มม. เท่านั้น     ส่วน iPad Pro  M 2 ตัวเครื่องบาง 5.9 – 6.4 มม.

ความละเอียดหน้าจอ 

 iPad Pro M4    Ultra XDR Retina OLEDความสว่างสูงสุด 1600 นิต    ส่วน iPad Pro  M 2 Liquid Retina XDR Mini-LED ความสว่างสูงสุด 1600 นิต

ซิปเซ็ต

iPad Pro M4    ใช้ ชิป  Apple M 4  ส่วน  ส่วน iPad Pro  M 2 ใช้ชิป  Apple M2

ความจุสตอเรจ

iPad Pro M4     มีขนาด 256GB . 512GB ,1TB และ 2TB   ส่วน iPad Pro  M 2 ขนาด  128GB , 256GB ,512GB ,1TB และ 2TB

ระบบเสียง

iPad Pro M4    ลำโพง 4 ตัว ไมโครโฟน 4 ตัว  ส่วน iPad Pro  M 2  ลำโพง 4 ตัว ไมโครโฟน 5 ตัว

แบตเตอรี่ความจุ

iPad Pro M4   ความจุ    38.99 วัตต์-ชั่วโมง   ส่วน   iPad Pro  M 2   ความจุ   40.88 วัตต์-ชั่วโมง  

เครือข่าย

iPad Pro M4     รองรับ5G เฉพาะ eSIM    ส่วน iPad Pro  M 2   รองรับ 5G Nano-SIM หรือ eSIM

สรุปแล้วส่วนที่แตกต่างกันหลักๆ

สำหรับ iPad Pro รุ่นใหม่ กับรุ่นเก่า ก็คือ รุ่นใหม่จะได้ความบางและเบากว่า  ส่วนจอภาพ ก็ได้รับการ จอภาพใหม่ Ultra Retina XDR และที่เด่น คือ ชิปใหม่ Apple M 4  ที่เร็วกว่า M2 ถึง 1.5 เท่า  โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้เรื่องคอนเทนต์ ตัดต่อ โปรดักชั่น

ส่วนความจุ  สตอเรจ รุ่นใหม่ก็จะเริ่มต้นที่  ขนาด 256GB   ขนาดที่ระบบเสียง รุ่นใหม่ ไมโครโฟนจะถูกตัดเหลือ 4 ตัว แต่ประสิทธิภาพคงไม่แตกต่างกันมากในการอัดเสียง  ส่วนความจุ แบตเตอรี่ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่มีจนาดใกล้เคียงกัน  แต่รุ่นใหม่  Apple บอกว่าประหยัดพลังงานมาก  ขณะการเชื่อมต่อเครือข่ายนั้น รุ่นใหม่ จะเป็น eSIM เท่านั้น  

คำถามที่ว่าใช่รุ่นเก่าอยู่ควรเปลี่ยนรุ่นใหม่มั้ย?

เรื่องนี้นานาจิตตังคงขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าใครกระเป๋ามัน หากต้องการใช้งานในเรื่อง สายคอนเทนต์ สายโปรดักชั่น เรื่องเงินไม่ติดขัด ไม่ใช่ปัญหา ก็สามารถเปลี่ยนได้ ด้วยชิบที่เร็วกว่ารุ่นเดิม 1.5 เท่า การใช้ตัดต่อระดับ 4K และใช้งาน 3D ดีกว่าเดิมแน่นอน  

แต่หากเป็นการใช้งานทั่วไป ไม่ได้ทำกราฟิกและตัดต่อหนักๆ และเครื่องยังไม่มีปัญหา ก็คงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะราคาเริ่มต้นในรุ่น 11 นิ้ว  เชื่อมต่อด้วยไวไฟ เท่านั้น ที่เหยียบสี่หมื่นบาท มีทอนแค่ร้อย  กับรุ่นท็อป จอ 13 นิ้ว ที่เป็นจอกระจกด้านนาโน ความจุ  2TB ที่ราคาทะลุไปที่ 104,900 บาท

เรียกว่าเห็นราคาแล้วต้องกลืนน้ำลาย ราคาเอาเรื่องไม่ใช่เล่น!!