สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ว่าสำนักพระราชวังของจอร์แดนเผยแพร่แถลงการณ์ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงสนทนาผ่านโทรศัพท์สายตรงจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามกลางเมือในซีเรียปะทุ เมื่อเดือน มี.ค. 2554 ที่ผู้นำซีเรียเป็นฝ่ายโทรศัพท์ถึงกษัตริย์จอร์แดน ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้ทั้งนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า เป็นการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น "แบบพี่น้อง" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ตรัสในตอนหนึ่งด้วยว่า จอร์แดนสนับสนุนการผดุงไว้ซึ่งอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย ตลอดจนความพยายามของรัฐบาลดามัสกัส ในการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของบ้านเมืองแม้ก่อนหน้านั้น รัฐบาลจอร์แดนเรียกร้องให้อัสซาดลาออกจากตำแหน่งผู้นำซีเรีย และมีท่าทีค่อนช้างชัดเจน ว่าสนับสนุนกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลดามัสกัส อย่างไรก็ตาม ท่าทีของจอร์แดนเปลี่ยนไปมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยนายพลอาลี อับดุลเลาะห์ เอย์ยูบ รมว.กลาโหมของซีเรีย เยือนกรุงอัมมาน เมื่อเดือนที่แล้วนอกจากนี้ จอร์แดนเปิดจุดผ่านแดนจาเบอร์ ในเมืองมาฟรัค ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับภาคใต้ของซีเรีย เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เดิมทีจุดผ่านแดนแห่งนี้กลับมาเปิดอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อปี 2561 หลังปิดยาวนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย อย่างไรก็ตาม จุดผ่านแดนแห่งนี้จำเป็นต้องปิดอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19แต่ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐยืนยันว่า ไม่มีแผน "ยกระดับหรือฟื้นฟูให้เป็นปกติ" เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับซีเรีย ขณะเดียวกัน สหรัฐ "ไม่สนับสนุน" ให้ประเทศอื่นดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลดามัสกัสด้วย เนื่องจากอัสซาด "ไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป".เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
