เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ติดตามนโยบายการศึกษา เนื่องในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ที่โรงเรียนพรหมมานุสรณ์ และโรงเรียนวัดกุฏิ (นันทวิเทศประชาสรรค์) นั้น ตนได้รับทราบปัญหาผลกระทบของลิงแสมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อทรัพย์สิน และรบกวนกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงสวัสดิภาพของนักเรียน ครู และบุคคลากรทางการศึกษา โดยที่โรงเรียนวัดกุฏิ มีสภาพหลังคาเรียนได้รับความชำรุดจากลิงเข้ามาดึงงัดแงะหลังคา จนทำให้หลังคามีรูรั่วเป็นวงกว้าง ส่วนห้องเรียนมีการจัดทำประตูลูกกรงและหน้าต่างเหล็กรอบห้องทุกห้องเรียน ซึ่งอาคารที่หลังคาชำรุดและใกล้จะเปิดภาคเรียนใหม่แล้ว โรงเรียนได้ย้ายนักเรียนที่เรียนในอาคารหลังดังกล่าว มาอยู่ที่อาคารเรียนห้องสมุดแทนเป็นการชั่วคราว ระหว่างรอการปรับปรุงซ่อมแซม

โดยเร็วๆ นี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะทำการจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมอาคารเรียนและทรัพย์สินทางราชการที่เสียหายที่เป็นผลกระทบจากลิงในพื้นที่ เพื่อให้โรงเรียนเกิดความปลอดภัย ซึ่งจะใช้วัสดุที่คงทนทานแข็งแรงกว่าเดิม เนื่องจากการลงพื้นที่สำรวจครั้งนี้ ตนได้นำทีมวิศกรของ สพฐ. มาร่วมวิเคราะห์สภาพอาคารด้วย นอกจากนี้ จะมีมาตรการการป้องกันในระยะยาว เพื่อลดการเกิดปัญหาซ้ำซ้อนโดยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ปัญหาลิงก่อกวนสถานศึกษาไม่ได้มีที่ จ.เพชรบุรี เพียงจังหวัดเดียว แต่ยังมี จ.ลพบุรี และ จ.กระบี่ ร่วมได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งตนมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำรวจสภาพอาคารเรียนของโรงเรียนใจจังหวัดดังกล่าว เพื่อจัดงบประมาณดูแลซ่อมแซม

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในระยะเร่งด่วนกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นำนักเรียนนักศึกษาภายใต้แนวปฏิบัติ ศูนย์อาชีวะ ช่วยประชาชน (fix it center) บูรณาการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปรับปรุงสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากลิง ซึ่งจะเป็นการฝึกทักษะ เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง และเกิดประโยชน์ต่อสังคม ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัยของ สพฐ. ดำเนินการดูแลด้านความปลอดภัยและรับแจ้งปัญหาผลกระทบจากลิงในสถานศึกษาทั้งในจังหวัดเพชรบุรี และในจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบต่อไป.