จากกรณี น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ หรือ “ซ้อปลา” แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ “ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง” ในพื้นที่ ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลา ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมหลังอ้างว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.สงขลา รีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว หลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านพัก ก่อนยึดเงินสด 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณหนัก 60 บาท ไปตรวจสอบ พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ให้ช่วยตวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ต่อมามีผู้เสียหายกว่า 50 ราย เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ให้ช่วยติดตามคดีที่ซ้อปลาเปิดวงแชร์ และบ้านออมเงิน ออมทอง แต่ปรากฏว่าไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ จึงต้องการเงินคืน ล่าสุดนายสิระ ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าคดี พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตามข่าวที่นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

‘สิระ’ ลงพื้นที่ลุยจี้คดี ‘ซ้อปลา’ ปมถูกรีด5ล.-ลูกแชร์โดนโกง ยันให้ความเป็นธรรมทั้งคู่

ความคืบหน้าวันที่ 4 ต.ค. ที่ห้องประชุม กองบัญชาตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.9) จ.สงขลา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธ์ หรือ “ซ้อปลา” ทนายความของซ้อปลา และทนายความกลุ่มความใจดีของกลุ่มผู้เสียหายจากวงแชร์ออนไลน์ ของ น.ส.กมลวรรณ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีกรณีมีการอ้างว่าตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.สงขลา เรียกรับเงิน 5 ล้านบาท และกลุ่มทนายใจดีพร้อมผู้เสียหายเข้าเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากความเสียหายที่เกิดจากการร่วมลงทุนแชร์ออนไลน์ และออมทอง

ด้านนายสิระ กล่าวว่า คดีที่มีการอ้างว่าตำรวจเรียกรับเงิน 5 ล้านบาท และคดีที่มีผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมจากการลงทุนแชร์ออนไลน์และออมทอง ทั้ง 2 คดีนั้น จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ เนื่องทั้ง 2 คดีมีความซ้ำซ้อนและมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนจะให้หน่วยงานที่เป็นส่วนกลางเข้ามาช่วยทำคดีหรือไม่นั้น จะพิจารณา อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ น.ส.กมลวรรณ หรือ “ซ้อปลา” กล่าวว่า เรื่องคดีเงิน 5 ล้านบาท ที่ตนเป็นผู้เสียหาย ถ้าตนไม่ผิด ก็จะสู้กันไป ตนไม่เคยแต่งเรื่องใส่ร้ายตำรวจ ส่วนเรื่องแชร์และออมทองนั้น ตนไม่ได้คิดจะหนี แต่ขอเวลา และจะชดใช้ให้ทั้งหมด ยอมเข้าสู่กระบวนยุติธรรม ถ้าเรื่องไหนที่ผิดก็ยอมรับ และรับผิดชอบทั้งหมด ยืนยันว่าไม่หนีแน่นอน แต่ตอนนี้ตนรู้สึกว่าถูกคุกคาม

ส่วนกลุ่มทนายใจดี พร้อมผู้เสียหายจากแชร์ออนไลน์นั้น ได้มอบเอกสารข้อมูลผู้เสียหายทั้งหมดรวมถึงยอดความเสียหายให้กับซ้อปลาทั้งหมด รวมยอดความเสียหายทั้งหมดกว่า 60 ล้านบาท โดยวันนี้ได้กลุ่มผู้เสียหายได้คุยกับซ้อปลาแล้ว ทางซ้อปลายืนยันว่า จะไม่หนีและพร้อมชดใช้ความเสียหายทั้งหมดก็พอใจ แต่ในเรื่องคดีทางกฎหมายก็จะดำเนินการต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า คดีเงิน 5 ล้านบาท นั้นอยู่ระหว่าการสอบสวนและสอบปากทั้งสองฝ่าย และได้สอบพยานไปแล้ว 6 ปาก ยืนยันว่า ทาง บช.ภ.9 จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย.