เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ขอนแก่น ว่า มวลน้ำชีไหลจาก อ.ชนบท ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 2 หมู่บ้าน ส่งผลให้บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 410 หลังคาเรือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 1,532 คน สัตว์เลี้ยงโค กระบือ รวม 1,683 ตัว ถนนถูกน้ำท่วมและถูกตัดขาด 15 สาย ส่วน อ.บ้านไผ่ ได้ดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น จัดตั้งจุดรองรับการอพยพไว้ 5 จุด และช่วยขนย้ายสิ่งของจัดหาวัสดุอุปกรณ์ น้ำดื่ม อาหาร

ส่วนพื้นที่ อ.บ้านแฮด มีฝนตกหนักในพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมและปริมาณน้ำไหลหลากจากพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชนบท ลงสู่แก่งละว้าและรับมวลน้ำชีจาก อ.มัญจาคีรี เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน 4 หมู่บ้าน และท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎรเสียหายเป็นบริเวณกว้างจำนวน 19 หมู่บ้าน ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังในหมู่บ้านจำนวน 392 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 1,300 ราย การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น อ.บ้านแฮด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสาพระราชทานเข้าไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือรายงานให้จังหวัดทราบเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมปลอบขวัญประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้น พร้อมเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ขณะนี้ อ.พระยืนมีน้ำไหลเข้ามาเพิ่มในระดับที่สูงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการที่เลี้ยงสุกรได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบกับสุกรจำนวนมากกว่า 4,000 ตัว ทางจังหวัดได้มีการปรับแผนโดยให้พื้นที่ที่น้ำลดแล้วทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น ทั้ง อ.ภูเวียง อ.สีชมพู อ.ชุมแพ หรือ อ.ภูผาม่าน ถอนกำลังมาช่วยทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้คาดการณ์ว่าผู้เลี้ยงสุกรที่ได้นำสุกรไปอยู่บนที่สูงน่าจะสามารถเคลื่อนย้ายกลับมาได้แล้วบางส่วน

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทางจังหวัดได้พยายามที่จะควบคุมคือปริมาณน้ำที่เอ่อล้นมาจากลำน้ำชีเพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดโดยให้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์กับผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ได้แก่ เทศบาลเมืองเก่า เทศบาลนครขอนแก่น ชลประทานจังหวัด และแขวงทางหลวงที่ 1 ขอนแก่น ในการประเมินร่วมกันว่ามีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในพื้นที่เศรษฐกิจได้จากจุดใดบ้างโดยประเมินจากสถานการณ์ปี 60 ที่มีน้ำเซาะคันกั้นน้ำ ทำให้คันกั้นน้ำชำรุดและน้ำไหลย้อนกลับเข้ามา ซึ่งกรมชลประทานได้สร้างคันกั้นน้ำใหม่แล้วซึ่งหากมีภาวะน้ำหลาก และน้ำวนอาจส่งผลให้เกิดการกัดกร่อน จึงให้ทุกภาคส่วนได้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า น้ำที่จะไหลลงสู่จ.มหาสารคาม คาดว่าอยู่ที่ 7-14 วันจะไหลออกจากพื้นที่ แต่น้ำค้างทุ่งที่เกิดจากลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเมื่อเกิดน้ำท่วมสูงและมีเนินดักทำให้น้ำไม่สามารถไหลออกไปได้ เกิดการเน่าเสียของหญ้าและทำให้เกิดกลิ่นเหม็น จึงได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมต่อไป

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวด้วยว่า ในส่วนของน้ำพองจะมีน้ำมาหนุนในปริมาณที่ไม่มากเนื่องจากในคืนที่ผ่านมามีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ที่ประมาณ 87ล้านลูกบาศก์เมตร ถือเป็นทิศทางที่ดี เนื่องจากน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์น้อยลงซึ่งที่ผ่านมามีการเปิดให้ยืดหยุ่น คือสามารถระบายน้ำได้ตั้งแต่ 15-35 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่ง ขณะนี้ระบายน้ำปริมาณ 25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีเงื่อนไขว่า หากมีน้ำไหลเข้าเขื่อนในปริมาณน้อยจะลดการระบายน้ำลงซึ่งจะมีการประเมินเป็นระยะ ซึ่งจะปรับลดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ได้ตลอด 24ชั่วโมง ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แวงน้อย และ อ.แวงใหญ่ อยู่ในลักษณะที่บางจุดมีน้ำลดลง บางจุดยังคงที่ เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเนินในบางแห่งจึงทำให้เกิดน้ำค้างทุ่ง.