จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลร่วมกับนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กระทั่งออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม 14 ราย ในจำนวนนี้มีภรรยาของกำนันนก แม่ยายกำนันนก และกลุ่มจัดฮั้วประมูล รวมอยู่ด้วย โดยนัดหมายให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 พ.ค. นางรินรวี จันทร์คล้าย ภรรยาของกำนันนก และนายอำนาจ มารุ่ง พนักงานบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และนายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน  เพื่อสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาคดีพิเศษที่ 82/2566 ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 5 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ในคดีทุจริตฮั้วประมูล 19 โครงการของรัฐ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท

ร.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยว่า ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหา 2 ราย คือนางรินรวี จันทร์คล้าย ภรรยาของกำนันนก และนายอำนาจ มารุ่ง ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ทำหน้าที่ฝ่ายบัญชี อีกทั้งนายอำนาจมีสถานะเป็นลูกน้องของกำนันนก ซึ่งคดีนี้ได้มีการจำแนกผู้ต้องหาออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้จัดฮั้ว,กลุ่มผู้สมยอมราคาหรือคู่เทียบหรือผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคา และกลุ่มผู้ได้งานโครงการหรือชนะการประกวดราคา ซึ่งทั้งสองจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ได้งานโครงการ ส่วนพฤติการณ์ของกลุ่มผู้สมยอมราคาหรือคู่เทียบหรือผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคา มักเข้าร่วมซื้อซองเสนอราคาจำนวนมาก แต่พอถึงวันประมูลเปิดซองจะเหลือเพียงไม่กี่ราย หรือบางรายยอมไม่เสนอราคา จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทั้งสองต้องชี้แจงเส้นทางการเงินที่พนักงานสอบสวนตรวจพบให้ได้  โดยในกรณีของนายอำนาจพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับกำนันนกหลายรายการ ใน3 ช่วงเวลา คือ ก่อนวันประกวดราคา E-Bidding ระหว่างวันประกวดราคาฯ และหลังวันประกวดราคาฯและมีจำนวนเงินหลายสิบล้านบาท แต่รายละเอียดไม่ขอเปิดเผย เช่นเดียวกับภรรยาของกำนันนก ถือเป็น 1 ในผู้บริหารของบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด อย่างไรก็ตามทั้งสองให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 30 วัน โดยจะเข้ามาพบด้วยตัวเอง หรือส่งเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรก็ได้

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า แต่เดิมคณะพนักงานสอบสวนได้นัดหมายนางไพรินทร์ พลอยพันธ์ ซึ่งเป็นแม่ยายกำนันนก ,นายมนเทียร จอนมอญ ,นางเกษดาภรณ์ จอนมอญ ,บริษัท โชคสุพร การโยธา จำกัด และน.ส.กัญชุดา สรสิทธิ์ มารับทราบข้อหาแต่ทั้งหมดขอเลื่อน โดยนางไพรินทร์ ได้ส่งเอกสารแจ้งขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยใบรับรองแพทย์ ระบุว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื่องมาจากกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งทางทนายความของนางไพรินทร์จะประสานภายหลังว่าจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันเวลาใด เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ประกอบไปด้วย นายวิชาญ พรหมเอียด หรือ สจ.เอดำ จะเข้าพบวันพุธที่ 15 พ.ค. เวลา 13.00 น. ส่วนนายมนเทียร จอญมอนและนางเกษดาภรณ์ จอญมอน สองสามีภรรยาจะเข้าพบในวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ค. เวลา 09.30 น. ซึ่งทั้งหมดต้องมาให้การว่าเหตุใดเข้าร่วมซื้อซอง แต่ไม่เข้าร่วมการประกวดราคา ในส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนางรินรวี, นายอำนาจและนายวิชาญ พรหมเอียด หรือ สจ.เอดำ ทางคณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแล้ว แต่ในเรื่องของคำให้การ ถือเป็นสิทธิ์ของกลุ่มผู้ต้องหาที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ พยานหลักฐาน นิติวิทยาศาสตร์ที่ชุดทำงานมีทั้งเส้นทางการเงิน,โครงสร้างบริษัท,ความสัมพันธ์ส่วนตัว,วัตถุพยาน และพยานบุคคลที่พบ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาต้องชี้แจงเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ทำคนเดียวได้ แต่เป็นการสมยอมตกลงร่วมกันของคนทั้ง 3 กลุ่ม