ทว่าในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนให้ต่างความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กาแฟกลับกำลังถูกจับตามองถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ กาแฟและความยั่งยืนจึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ผู้บริโภคและผู้ผลิตต่างให้ความสนใจ
หากถามว่าสองสิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร? คำตอบคือ ทั้งกระบวนการเพาะปลูก กระบวนการในการผลิตกาแฟ ไปจนถึงพฤติกรรมการดื่มของเรา ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
“วัฒนธรรมการดื่มกาแฟกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดกาแฟพิเศษ ตั้งแต่ต้นน้ำ พื้นที่เพาะปลูก สายพันธุ์กาแฟ กระบวนการเก็บเกี่ยว การคั่วกาแฟ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตของเกษตรกร” สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าว

‘กาแฟพันธุ์ไทย’ ถือเป็นแบรนด์แรกของไทย ที่เลือกใช้วัสดุธรรมชาติทั้งหมดในการผลิตกาแฟแคปซูล สามารถสลายตัวทางชีวภาพได้ 100% โดยแคปซูลดังกล่าว ผลิตจากเซลลูโลส เส้นใยพืช และแป้ง ส่วนฝาแคปซูลผลิตจากเยื่อกระดาษธรรมชาติ ไม่มีส่วนประกอบของพลาสติกและอะลูมิเนียม รับประทานได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพันธุกรรม อีกทั้งยังได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติย่อยสลายทางชีวภาพได้ ภายใน 3 เดือน ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส และปัจจัยด้านความชื้น ออกซิเจน รวมถึงจุลินทรีย์ที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยลดขั้นตอนและพลังงานในการกำจัดขยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังสามารถทิ้งลงถังขยะประเภทเศษอาหา หรือนำไปทำปุ๋ยหมักไว้ใช้ในครัวเรือนได้ รวมถึงหากทิ้งในสวนหลังบ้านก็ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ในดิน ด้านกล่องบรรจุภัณฑ์ กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยยังผลิตจากกระดาษรีไซเดิล 100% โดยใช้หมึกพิมพ์น้ำมันถั่วเหลือง (Soy Ink) ในการบ่งบอกรสชาติของสินค้า ทั้งยังสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ ‘กาแฟพันธุ์ไทย’ สนับสนุนชุมชนและเกษตรกรไทย ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาทิ การจัดตั้งโครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้า บนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในการปลูกกาแฟให้กับเกษตรกร ต.ปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำไร่เลื่อนลอย ให้เป็นพื้นที่ปลูกกาแฟ และเปลี่ยนเขาหัวโล้นให้เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ การใช้ไบโอพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ มาพัฒนาเป็นแก้วเครื่องดื่มพันธุ์ไทย ทำให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และด้วยความร่วมมือกับนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่สร้างสรรค์กาแฟไปพร้อม ๆ กับการปลูกป่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน เหล่านี้สอดคล้องกับหลัก BCG ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวให้เดินหน้าต่อไปได้
“การสร้างสรรค์กาแฟแคปซูลพันธุ์ไทยในครั้งนี้ นอกจากผู้บริโภคจะได้ดื่มด่ำกาแฟพิเศษรสชาติพรีเมียมได้ง่าย ๆ ที่บ้านแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดขยะ ลดการสร้างมลพิษ อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน เพราะทุกองค์ประกอบของกาแฟแคปซูลและแพ็กเกจจิง สามารถย่อยสลายได้ทุกชิ้น ปลอดภัยต่อทุกชีวิต และไม่ทำร้ายโลกในระยะยาว” สุขวสา กล่าวทิ้งท้าย