เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่อาคารโรงยิมเนเซียม PAT Arena นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ครบรอบ 73 ปีว่า ตลอดระยะเวลา 73 ปี กทท. เป็นองค์กรสำคัญที่มุ่งขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ โดยใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการให้บริการ เพื่อลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมุ่งสู่ท่าเรือสีเขียว (Green Port) ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) โดยติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงพักสินค้า และอาคารในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) ส่งเสริมการใช้รถยกไฟฟ้า EV สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทดแทน ลดมลพิษปัญหาฝุ่นละอองในบริเวณพื้นที่

นางมนพร กล่าวต่อว่า สำหรับในปีที่ 74 นี้ กทท. ต้องเดินหน้าปรับตัว เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง (Transformation) ด้วยการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และครบวงจร เพื่อก้าวสู่การเป็นเมืองท่าที่ทันสมัย เพิ่มศักยภาพรองรับธุรกิจพาณิชยนาวี การขนส่งโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว สานต่อนโยบาย “คมนาคมเปิดประตูการค้า การท่องเที่ยว สร้างการเป็น HUB เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางทุกมิติ” ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบท่าเรือต่อไป

นางมนพร กล่าวอีกว่า กทท. ยังคงเดินหน้าพัฒนางานบริการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง เพื่อเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค รวมทั้งมีแผนขยายขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าในอนาคต ตลอดจนมุ่งแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งพัฒนาท่าเรือภูมิภาคด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 งานก่อสร้างทางทะเล ขณะนี้มีผลการดำเนินการสะสม ณ เดือนเม.ย.67 คิดเป็น 27.25%

ส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติ เพื่อลงนามในสัญญาต่อไป สำหรับในส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ และส่วนที่ 4 งานจ้างเหมาสร้างเครื่องจักรฯ อยู่ระหว่างการสรรหาผู้รับจ้างเพื่อจัดทำเอกสารประกวดราคา โดยได้กำชับให้ กทท. ติดตามเร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามแผนงานอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทบงานส่วนอื่น และส่งมอบแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ ได้ตามกรอบระยะเวลาของสัญญา

ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงระยะเวลา 6 เดือนของปีงบประมาณ 67 (ต.ค.66 – มี.ค.67) มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง รวม 7,230 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.36% สินค้าผ่านท่า 58.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.85% และตู้สินค้าผ่านท่า 5.28 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 9.77% มีรายได้สุทธิ 8,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.97% กำไรสุทธิ 4,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.34% เทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กทท. เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่นำรายได้นำส่งแผ่นดินสูงสุด 10 อันดับแรกด้วย โดย กทท. มุ่งมั่นที่จะเพิ่มพูนประสิทธิภาพการปฏิบัติการ และพัฒนาศักยภาพขององค์กรสู่การเป็นท่าเรือชั้นนำของโลก ภายใต้มาตรฐานสากล พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทยในตลาดการค้าโลกผ่านโครงการพัฒนาท่าเรือที่สำคัญ อันจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนต่อไป

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ครบรอบ 73 ปี กทท. ได้มอบเงินสนับสนุนจัดหารถหน่วยคัดกรองมะเร็งนรีเวชให้แก่มูลนิธิกาญจนบารมี 36,720,400 บาท เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.67 เพื่อช่วยเหลือสตรีกลุ่มเสี่ยงผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารให้สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งทางนรีเวชได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกันนี้ยังได้มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน 1,500,000 บาท วัดดอนทราย และโรงเรียนวัดดอนทราย สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย มัสยิดอิดารุลมีนา ชมรมผู้สูงอายุ กทท. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทท. หน่วยงานละ 300,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,000,000 บาท.