เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน ว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูในพื้นที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมตัวในข้อหาซื้อบริการทางเพศเด็กนักเรียนหญิงอายุ 12 ขวบ พร้อมทั้งถูกตั้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, ชักจูง ยุยง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก นั้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้ติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ปรากฏข้อมูลว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกจับกุมนั้น มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและผู้บริหารสถานศึกษา และปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ส่วนครูที่ถูกจับกุมนั้นเกษียณอายุราชการไปแล้ว และไม่พบข้อมูลการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

ช็อก! จับผอ.โรงเรียนดัง-ครูวัยเกษียณ ซื้อบริการทางเพศเด็กนักเรียนหญิงวัย 12
ให้ออกจากราชการ! ‘ผอ.โรงเรียนดัง’ ขอนแก่น ร่วมอดีตครูซื้อบริการเด็กนักเรียนหญิงวัย 12

ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อว่า กรณี ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าว สำนักงานเลขาธิการคุรุภา เตรียมเสนอคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภทไว้ก่อน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ เนื่องจากมีองค์ประกอบที่สามารถพักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อนได้ หากเป็นความผิดเรื่องที่เกี่ยวกับทางเพศ ยาเสพติด หรือถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่ และหากผลตัดสินว่ามีความผิดจริง จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภททันที ส่วนกรณีของครูที่เกษียณฯ ไปแล้ว สำนักงานฯ ก็ได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ในระบบฐานข้อมูลทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะต้องห้ามของผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกประเภทเรียบร้อยแล้ว

“การกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ที่ประพฤติผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กนักเรียนนั้น ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง จึงขอย้ำเตือนให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ต้องควบคุม ดูแล มิให้ใครก็ตามมีพฤติการณ์ดังกล่าวโดยเด็ดขาด เพราะเป็นความผิดจรรยาบรรณวิชาชีพทางการศึกษา ด้านจรรยาบรรณต่อผู้รับบริการอย่างชัดเจน ซึ่งครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ทุกคน จะต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า และต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม ของศิษย์และผู้รับบริการ” เลขาธิการคุรุสภา กล่าว.