จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปภาพเหตุการณ์ ชายสูงวัยกระโดดเกาะรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ทะเบียนนครสวรรค์ บริเวณหน้าตลาด ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากฝ่ายชายอ้างตัวเป็นแฟนของหญิงสาวที่มีอายุเพียง 27 ปี ที่ขับรถ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ในรายการโหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ นายชัด (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 59 ปี พร้อมคู่กรณีคือ น.ส.เกตุ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 27 ปี เข้ามาพูดคุยในรายการถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดยนายชัด เล่าว่า ได้คบหาดูใจกับฝ่ายหญิงมานานแล้ว โดนก่อนหน้านี้ตนแต่งงานจนมีลูกกับภรรยาเก่าที่เลิกราไปแล้ว 2 คน ช่วงแรกที่คบหากันนั้นฝ่ายหญิงดีทุกอย่าง โทรศัพท์เรียก “ผัวคะ ผัวขา” แต่พอหลังจากซื้อรถเป็นของหมั้นให้ปรากฏว่าพฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก ไม่ยอมมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อีกทั้งยังอ้างว่าโทรศัพท์สัญญาณไม่ดีติดต่อไม่ได้ เวลาติดต่อมาทุกครั้งก็จะให้ตนโอนเงินให้เท่านั้น ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หมดเงินไปมากว่า 7 แสนบาท สำหรับรถที่ตนกระโดดเกาะ ตนต้องเอารถฟอร์ดไปเข้าไฟแนนซ์ได้เงินมา 1.7 แสนกับอีก 6 พัน เพื่อเอาไปให้ฝ่ายหญิงได้ซื้อรถ ก่อนจะนัดผูกแขนกันวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้มีพิธีไปแต่อย่างใด เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าติดเรื่องโควิด-19 ก่อนหน้านี้มาหาตนแต่ต้องโดนกักตัว ก็ไปอยู่รีสอร์ทขอเงินตนอีก 3 หมื่น ค่าเช่าห้องพักและค่าเครื่องสำอาง

นายชัด เล่าอีกว่า สำหรับวันเกิดเหตุฝ่ายหญิงโทรฯ มานัดหมายว่าจะมาหาตน โดยมีเพื่อนสาวติดรถมาด้วย จากนั้นก็ชักชวนกันมาหาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณตลาดคลองแม่ลาย โดยตนก็นั่งรถมาด้วยกันตามปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาถึงที่ร้านสะดวกซื้อลงไปซื้อของด้วยกัน แต่ฝ่ายหญิงกลับวิ่งขึ้นรถก่อนจะขับออกไปดื้อ ๆ ทำให้ตนรีบเข้าไปกระโดดขวางเอาไว้ดังกล่าว ปรากฏว่าแทนที่อีกฝ่ายจะหยุดกลับขับต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาชาวบ้านและผู้ที่ขับขี่รถสัญจรไปมา กระทั่งตำรวจมาเจอและแจ้งให้ฝ่ายหญิงหยุดรถดังกล่าว

ด้าน น.ส.เกตุ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าคบหาดูใจกับฝ่ายชายที่มีอายุน้อยกว่าพ่อนิดหน่อยจริง เพราะเชื่อว่าฝ่ายชายสามารถดูแลตนได้ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ทำดีมาตลอด 5 เดือนแรก แต่พอเข้าสู่เดือนที่ 6 พบว่าเริ่มอารมณ์หึงหวงจนเกินกว่าเหตุ ถึงขนาดโทรฯ จิกไม่หยุด ตั้งแต่คนในครอบครัวจนถึงเพื่อน ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนถูกคุกคาม ซึ่งจุดที่ตนรับไม่ได้ก็คือเรื่องที่ไปโทรฯ หาพ่อ ขู่ว่าถ้าตนไม่มาพูดคุยด้วย หรือไม่ยอมมาอยู่ด้วยกันดี ๆ ก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ขู่จะยิงทิ้ง ทำให้ตนไปไหนต้องเอาเพื่อนไปด้วยตลอด สำหรับงานแต่งนั้น เหตุที่ต้องล้มเลิกไปก็เพราะโควิด-19 แต่ก็ได้บอกกับฝ่ายชายไปแล้วว่า ให้ไปหาฤกษ์ใหม่ ซึ่งฝ่ายชายกลับนิ่งเฉย จึงคิดว่าคงอยู่กินกันไปก่อน

ขณะที่ หนุ่ม กรรชัย อธิบายว่า อาจเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัย ทำให้ทั้งสองไม่เข้าใจกัน ถ้าหากพูดกันเจรจากันให้ดี ก็น่าจะเคลียร์กันได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองยืนยันว่า หมดเยื่อใยเพราะความรู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้วก็ต้องเลิกรากันไปดี ๆ ปรากฏว่านายชัด ได้ยื่นข้อเสนอว่า จะจบกันไปเลยก็ได้ เพียงแต่ขอให้ฝ่ายหญิงคืนรถฮอนด้าแจ๊ซที่ตนซื้อให้ โดยโอนเป็นชื่อตนเท่านั้น ซึ่งฝ่ายหญิงได้ตอบตกลง และขอให้ฝ่ายชายเลิกโทรฯ มาตอแย หรือตื้อให้กลับไปอยู่ด้วยกัน ยืนยันว่าขอแยกทางเช่นเดียวกัน จะได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง

“…เรื่องต้องคืนเงินและสินสอดต่าง ๆ ตนคงไม่เอาแล้วละ ขอเพียงให้น้องโอนรถคืนมาให้โดยห้ามกลับคำก็พอ จริง ๆ แล้วน้องเกตุเป็นคนน่ารัก ถ้าเจอหน้ากันก็น่าจะทักทายคุยกันได้ แต่หากจะให้ผมกลับไปอีก ก็คงไม่เอาแล้ว…” นายชัด กล่าวทิ้งท้าย.