สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า มติที่เขียนโดยเยอรมนี และรวันดา ซึ่งกำหนดให้วันที่ 11 ก.ค. ของทุกปี เป็นวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซเรเบรนิซาสากล ได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบ 84 เสียง คัดค้าน 19 เสียง และงดออกเสียง 68 เสียง

“การลงมติครั้งนี้พยายามส่งเสริมความปรองดอง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต” นางแอนท์เจอ ลีนเดิร์ตซ์ เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าว

ก่อนหน้าการลงมติ ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช ผู้นำเซอร์เบีย กล่าวเตือนยูเอ็นจีเอ ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการเปิดบาดแผลเก่า และจะสร้างความโกลาหลทางการเมืองโดยสมบูรณ์ แต่เขาไม่ปฏิเสธการสังหารหมู่ซเรเบรนิซา และเคารพต่อผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งในบอสเนียทุกคน

ขณะเดียวกัน นายมิโลราด โดดิก ผู้นำชาวเซิร์บ-บอสเนีย ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในเมือง พร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยอมรับมติของยูเอ็น

นอกเหนือจากการสถาปนาวันรำลึก มติของยูเอ็นจีเอ ยังประณาม “การปฏิเสธใด ๆ” เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกของยูเอ็น “รักษาข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยอมรับ”

อนึ่ง การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซเรเบรนิซา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2538 หลังกองกำลังเซิร์บ-บอสเนีย สังหารชายและวัยรุ่นชาวบอสนีแอก หรือชาวมุสลิมบอสเนีย ประมาณ 8,000 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความโหดร้าย ครั้งเลวร้ายที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง.

เครดิตภาพ : AFP