เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมงาน UBS Asian Investment Conference (AIC) 2024 ระหว่างวันที่ 28-29 พ.ค. 2567 ตามคำเชิญของผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ UBS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการธนาคาร การเงิน และการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 160 ปี และมีการดำเนินงานในไทยตั้งแต่ปี 2538 ทั้งนี้ งาน UBS Asian Investment Conference เป็นเวทีสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่สำคัญ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 ราย และมีบริษัทจากเอเชีย-แปซิฟิก กว่า 300 บริษัท มาร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ เพื่ออนาคต

นายชัย กล่าวอีกว่า สำหรับงาน UBS AIC ในปีนี้มีหัวข้อหลักของงาน คือ “Wisdom: an eye on the past, a view to the future” โดยนายกรัฐมนตรีจะร่วมการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และนำเสนอนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ อาทิ นโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน รวมถึงจะพบปะกับผู้บริหารภาคเอกชนเพื่อหารือถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล และโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย ขณะที่ภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรี มีทั้งการเข้าร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูงกลุ่มเล็ก การกล่าวปาฐกถาในงานดังกล่าวเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจและโอกาสในการลงทุนในไทย และการหารือทวิภาคีกับนายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง  นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับผู้บริหารบริษัท SF Holding ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในจีนและอันดับ 4 ของโลก ซึ่งได้จดทะเบียนในไทยในชื่อ SF Express และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Kerry Express ประเทศไทย

“การเข้าร่วมงาน UBS Asian Investment Conference 2024 ของนายกรัฐมนตรี เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะได้มีส่วนร่วมในการหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ แสวงหาโอกาสร่วม และแสดงศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงได้ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำความพร้อมของไทยที่พร้อมเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล โอกาส และความพร้อมในการลงทุนในประเทศไทยที่มีศักยภาพ มีโอกาสเติบโตอีกมาก ได้อย่างกว้างขวาง” นายชัย กล่าว