จากกระแสข่าวว่าจะมีการสั่งฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ อดีต 2 ผู้ต้องหา ในคดีอาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ท ค้ามนุษย์ ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ เป็นภรรยาและลูกของเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีออกนอกประเทศ จนถึงขณะนี้ยังจับกุมมาดำเนินคดีไม่ได้นั้น

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด คนที่ 16 ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวปฏิเสธเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่มีการสั่งคดีใหม่ ยังไม่มีใครยื่นเรื่องนี้เข้ามา  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอ่างวิคตอเรีย เมื่อครั้งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบุกจับกุม เมื่อต้นปี 61 ได้ผู้ต้องหาประมาณ 17 คน ประกอบด้วยกลุ่มเจ้าของอ่างและครอบครัว คือนายกำพล นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ กลุ่มผู้จัดการ-พนักงานเชียร์แขก และบริษัทนิติบุคคล

ต่อมาดีเอสไอและอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางนิภา และนายธนพล ส่วนเสี่ยกำพล หลบหนีคดีไปต่างประเทศจนถึงตอนนี้ยังไร้วี่แวว โดยอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้จัดการอาบอบนวดและพนักงานเชียร์แขกกับบริษัทนิติบุคคล

โดยคดีนี้เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2561 ศาลอาญาพิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการอาบอบนวด นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ นายชัยณรงค์ อันสุข หรือ ป๋าสง่า และนายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือ พี่ป๊อป พนักงานเชียร์แขก จำเลยที่ 1-4 มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาฯ ให้จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน/ส่วน น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อัมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย สำหรับ หจก.อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 และ บจก. เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำเลยที่ 7 ที่เป็นนิติบุคคลให้เช่าสถานที่ ก็พิพากษายกฟ้อง

ต่อมาเมื่อเดือน ธ.ค.63 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 68 ปี จำคุกจำเลยที่ 3-4 คนละ 62 ปี 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 6 รวม 68 ปี ปรับ 8,000 บาท และให้ปรับจำเลยที่ 5 จำนวน 3,978,666 บาท กับจำเลยที่ 7 จำนวน 3,970,666 บาท โดยตามกฎหมายแล้วให้ลงโทษจำคุกได้สูงสุด คนละ 50 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่เป็นเด็กสาวผู้เสียหายที่ 2-3 คนละ 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง