เมื่อวันที่ 6 ต.ค. พ.ต.ท.จันทวี ชาวชายโขง รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้ควบคุมตัวนายโต (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาว จ.อุดรธานี ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังนางมล (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาว จ.อุดรธานี ผู้เป็นแม่ ได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ว่า นายโต ซึ่งเป็นลูกชายได้ก่อเหตุพยายามข่มขืนตัวเองขณะนอนหลับ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 64 นางมล ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า นายโต ลูกชาย ก่อนหน้านี้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ พอช่วงโควิดระบาดตกงานจึงกลับมาอยู่บ้าน ส่วนสามีใหม่ของตนไปทำงานที่ต่างจังหวัด ตนจึงอยู่บ้านกับลูกชาย 2 คน ระหว่างที่อยู่ที่บ้านร่วม 2 ปี นายโตไม่ยอมทำงานอะไร เอาแต่กินเหล้าและเสพยาบ้าเป็นประจำ กระทั่งคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ในห้อง ลูกชายเมามายกลับมาได้ปีนหน้าต่างเข้ามาหาและใช้มือล้วงอวัยวะเพศของตน ก่อนพยายามจะข่มขืน ตนได้ต่อสู้ขัดขืนและหันไปคว้าแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้มือทุบเข้าที่ท้ายทอยและหน้าผากจนลูกชายสลบไป จากนั้นตนจึงรีบวิ่งไปหาพี่สาวที่อยู่บ้านใกล้ก่อนจะโทรฯแจ้งตำรวจ พอตำรวจมาที่บ้านลูกชายก็ได้หายไปแล้ว ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.บ้านผือ ทั้งที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดของลูกชาย ซึ่งตนต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ชนะเกียรติ วงศ์แสงเทียน ผกก.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่ง พ.ต.อ.ชนะเกียรติ ได้มอบหมาย พ.ต.ท.จันทวี ชาวชายโขง รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.บ้านผือ สั่งการชุดสืบสวนออกติดตามตัวคนร้ายจนทราบเบาะแสว่าหลังเกิดเหตุ นายโต ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่และเพิ่งวกกลับมาอยู่ที่กระท่อมใกล้บ้านที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 ต.ค. จึงได้เข้าจับกุมตัวทันที ก่อนนำมาตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด จึงแจ้งข้อหา เสพยาบ้า และพยายามข่มขืนบุพการี สอบสวนนายโต ให้การรับสารภาพว่า ก่อนที่จะก่อเหตุได้ไปกินเหล้าและเสพยาบ้ากับเพื่อนจนเกิดอารมณ์ทางเพศจึงหน้ามืดทำลงไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายโต ผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำกลางอุดรธานี เพื่อรอดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.