“ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)” ออกประกาศมาตรการวางแนวทางเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการใช้บัญชีม้ากระทำความผิด โดยให้ผู้ให้บริการทางการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูง หรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ จะช่วยป้องกันและลดการนำบัญชีมาใช้เป็นเครื่องมือในการรับเงินและถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดทางการเงิน เป็นการป้องกันหรือลดความเสียหายให้กับประชาชนได้เท่าทันและรวดเร็ว รวมทั้งสามารถจัดการปัญหาบัญชีม้าอย่างมีประสิทธิผล

สำหรับมาตรการคือให้ผู้ให้บริการทางการเงินเข้มงวดในการเปิดบัญชีกับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีลักษณะ พฤติกรรมผิดปกติ เช่น บุคคลที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดรายชื่อว่ามีความเสี่ยงสูง บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันฯ

โดยเมื่อผู้ให้บริการทางการเงินพบว่าบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงมาขอเปิดบัญชี ให้ผู้ให้บริการตรวจสอบ เพื่อทราบข้อเท็จจริงลูกค้าเพิ่มเติมในระดับเข้มข้นตามความเสี่ยง เช่น ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน ข้อมูลประกอบอาชีพ วัตถุประสงค์ของการเปิดบัญชี เป็นต้น และมีมาตรการเปิดบัญชีทั้งแบบพบเห็นต่อหน้า และแบบไม่พบเห็นต่อหน้าอย่างรัดกุมเหมาะสม

นอกจากนี้ ให้ผู้ให้บริการทางการเงินยกระดับการตรวจจับ และติดตามบัญชีของบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อป้องกันบุคคลดังกล่าวใช้บัญชีเป็นช่องทางกระทำความผิด โดยให้ใช้ข้อมูลจากระบบเซ็นทรัล ฟอร์ด รีจิสตรี้ ข้อมูลพฤติกรรมต้องสงสัยที่ผู้ให้บริการทางการเงินตรวจพบเองและที่แลกเปลี่ยนระหว่างกัน มาคัดกรองบุคคลดังกล่าว เพื่อตรวจสอบให้ทราบข้อเท็จจริงของบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติม และดำเนินการอย่างเหมาะสมตามระดับความเสี่ยง

ขณะเดียวกันผู้ให้บริการทางการเงินต้องร่วมกันกำหนดประเภทบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่เข้าข่ายบัญชีม้า และกำหนดแนวทางจัดการอย่างเหมาะสมตามระดับความเสี่ยง และเป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงลูกค้า เช่น การพิจารณาปฏิเสธการเปิดบัญชีให้กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อไม่ให้ผู้กระทำความปิดใช้ช่องโหว่มาเปิดบัญชีและใช้เป็นบัญชีม้า และให้ใช้ข้อมูลจากการแลกเปลี่ยน ป้องกันปัญหาเปิดบัญชี ลดความเสียหายที่ใช้เป็นเครื่องมือกระทำความผิด และสร้างความเชื่อมัน ความปลอดภัยทางการเงินด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธปท. ตระหนักถึงภัยทุจริตทางการเงินและปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันและรับมืออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาญชากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 หรือ พ.ร.ก.มาตรการป้องกัน รวมถึงผลักดันให้ผู้ให้บริการทางการเงินดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ภัยทุจริตทางการเงินมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการ และเทคนิค ที่มีความหลากหลายซับซ้อนมากขึ้น แม้ผู้ให้บริการทางการเงินจะมีกระบวนการรู้จักและยืนยันตัวตนของลูกค้าในการเปิดบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งติดตามตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงของลูกค้า แต่ยังพบว่ามีการนำบัญชีมาใช้เป็นเครื่องมือในการรับเงินและถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด (บัญชีม้า) จนเกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้างอยู่ อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงินด้วย จึงออกมาตรการในครั้งนี้

ทั้งนี้ มาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูงหรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ ให้มีผลใช้กับสถาบันการเงินทุกแห่ง, สถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ทุกแห่ง โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที ยกเว้นการเปิดเผยหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค. 67 เป็นต้นไป

อ้างอิง : หนังสือเวียน เรื่อง การเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูงหรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ