สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า มติดังกล่าวระบุว่า ผลสัมฤทธิ์ทางอารยธรรมทั้งหมดเป็น “มรดกส่วนรวมของมนุษยชาติ” พร้อมสนับสนุนการเคารพความหลากหลายทางอารยธรรม เน้นย้ำ “บทบาทสำคัญของการเสวนา” ระหว่างอารยธรรมในการผดุงสันติภาพของโลก ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน การยกระดับความเป็นอยู่อันดีของมนุษย์ และการบรรลุความก้าวหน้าร่วมกัน
นอกจากนั้น มตินี้เรียกร้อง “การเสวนาอย่างเท่าเทียมและการเคารพซึ่งกันและกัน” ระหว่างอารยธรรมต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนแก่นแท้ของแผนริเริ่มอารยธรรมระดับโลก (จีซีไอ) อย่างสมบูรณ์ จึงมีมติกำหนดให้วันที่ 10 มิ.ย. ของทุกปี เป็นวันสากลแห่งการเสวนาระหว่างอารยธรรม
นายฟู่ ชง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ ซึ่งเสนอร่างมตินี้ ณ การประชุมเต็มคณะของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) กล่าวว่า โลกภายใต้บริบทปัจจุบันของสารพัดวิกฤติ และความท้าทายอันเชื่อมโยงกัน ได้เข้าสู่ความไม่มั่นคงและการเปลี่ยนแปลงระยะใหม่ นำประชาคมมนุษย์สู่ทางแยกแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง
จีนเสนอการกำหนดวันสากลแห่งการเสวนาระหว่างอารยธรรม เพื่อยกระดับความสำคัญของการเสวนาทางอารยธรรมในการ “ขจัดการเลือกปฏิบัติและอคติ ยกระดับความเข้าใจและความไว้วางใจ ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันและความร่วมมือ” อย่างเต็มกำลัง
มตินี้อัดฉีดพลังงานเชิงบวกสู่ความพยายามจัดการความท้าทายร่วมกันในระดับโลก และแสดง “การสนับสนุนลัทธิพหุภาคี” และการทำงานของสหประชาชาติ ตอกย้ำความรับผิดชอบของจีน ในฐานะประเทศใหญ่ในศตวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
อนึ่ง มตินี้เชิญชวนรัฐสมาชิกและหน่วยงานของสหประชาชาติทั้งหมด ร่วมเฉลิมฉลองวันสากลแห่งการเสวนาระหว่างอารยธรรม โดยจีนสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องในโอกาสวันสากลแห่งการเสวนาระหว่างอารยธรรม ตามข้อมติยูเอ็นจีเอ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ผลักดันแผนริเริ่มอารยธรรมระดับโลก เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ซึ่งเรียกร้องทั่วโลกดำเนินการแลกเปลี่ยนเชิงลึก ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรม และสร้างความก้าวหน้าของประชาคมมนุษย์.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA