เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
พี่เดนำข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์มาให้ FC เรียนรู้เพื่อจะได้เอาตัวรอด
คำพิพากษาฎีกาที่ 4987/2537 สามีภริยามีหน้าที่ต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกันตามความสามารถและฐานะของตนหาใช่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามีจะมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ที่เป็นภริยาแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่
ฉะนั้นเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยที่ 1 มีความสามารถและฐานะดีกว่าโจทย์เพียงใดและโจทก์มีรายจ่ายเกินรายได้ของตนเพียงใด แต่กลับได้ความว่าเงินเดือนที่โจทก์ได้รับพอใช้จ่ายเช่นนี้ โจทก์จึงไม่สมควรได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูจากจำเลยที่ 1 ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาพี่น้องประชาชนนำไปใช้ได้นะครับสอบถามเพิ่มเติม 0-2948-5700 จากทีมงานพี่เด
หลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมกับระบุว่า
– ถ้าเป็นอย่างนี้จะมีผัวกันไปทำไม
– ไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูเมีย งั้นจ่ายค่าเลี้ยงลูก ซักผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว ค่าดูแลบ้าน ค่าเสียเวลา ค่าตัวที่เคยนอนมาด้วยค่ะ ที่ผ่านมา ก็จะคิดเป็นเงินให้หมด
– อย่ามีเลย เป็นขี้ข้ามันเปล่า ผัวน่ะ ทำงานเอง มีเงินใช้ สบายใจกว่า ไม่ต้องมาเถียงกัน เรื่องเงิน (ส่วนตัวนะ)
– งั้นไม่ต้องมีค่ะผัวมีแล้วต้องเลี้ยงตัวเองอย่ามี
– ถ้างั้นตอนแต่งงานประกาศกลางงานแต่งไปเลยสิ อยู่กับผม ผมไม่เลี้ยงดูนะ ใช้เงินใครเงินมัน เลิกกันไปผมก็ไม่ส่งเสียลูกนะ ดูสิว่าผู้หญิงหน้าไหนจะแต่งด้วย เห็นมีแต่บอกว่าจะรักและดูแลตลอดไป ถามว่าสามัญสำนึกอยู่ตรงไหนก่อน ไม่ต้องเอากฎหมายมาอ้าง เอาความเป็นคนมาคุยกัน