เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. 67 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) โดยมีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท วาระแรก พิจารณาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย โดยรัฐมนตรีและสส.ของพรรคภูมิใจไทย ได้พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง เนื่องในปีมหามงคล เป็นวันที่ 2 หลังจากที่ใส่วันแรกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายว่ารัฐบาลจัดงบประมาณปี 2568 เหมือนเป็นนักวิ่งราวทรัพย์ เพราะกู้เงินวงเงินสูงเพื่อมาแจกประชาชน และบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง ทั้งนี้กู้แล้วแจกให้ประชาชนถือว่ามีจิตสำนึก หากกู้แล้วเก็บไว้เอง เท่ากับปล้นทรัพย์ ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งงบประมาณขาดดุล โดยเฉพาะปี 68 ตั้งงบขาดดุลสูงสุดรอบ 36 ปี นอกจากนั้นพบว่ามีการตั้งงบเพื่อชดเชยสูงถึง ร้อยละ 4.5 ของจีดีพี จากเกณฑ์ที่ไม่เกิน ร้อยละ 3 ของจีดีพี ขณะที่ปีที่แล้วพบยอดตั้งงบชดเชยอยู่ที่ ร้อยละ 4.3 เมื่อรวม 2 ปีรวมกัน ตนมองว่าจะมีผลกระทบต่อวินัยการคลังระยะยาว

“การตั้งงบที่ขาดดุล และกู้ชดเชยต้องพิจารณาไม่สูงเกิน ร้อยละ 3 ของจีดีพี และงบตั้งงบหนี้ภาครัฐ 4 แสนล้านบาท เงินต้น 1.5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ยหนี้สาธารณะอยู่ระดับร้อยละ 9 ทั้งนี้มีข้อกำหนดไม่เกิน ร้อยละ 10 ทั้งนี้หนี้สาธารณะสูงสุดในรอบ 9 ปี ร้อยละ 67.9 สูงกว่าค่ากลาง ร้อยละ 7.9 ดังนั้นสัดส่วนดอกเบี้ยต่อรายได้สูงขึ้นทุกปี เงินที่ได้มีภาระจ่ายดอกเบี้ย เครดิตความเชื่อถือของประเทศลดลง ทั้งนี้นายกฯ เป็นนักบริหารบริษัท แต่มาบริหารประเทศเกือบ 1 ปี ทำประเทศเข้าสู่วิกฤติและเกือบเจ๊ง ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนและตั้งการ์ดให้ดี เชื่อว่า ครม. มีคนเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ มีคณะทำงาน ดังนั้นควรเลือกใช้คนที่เหมาะกับงาน” นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวถึงการจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่นว่า ปี 68 จัดสรรให้จำนวน 8.39 แสนล้านบาท ทั้งนี้ในรายละเอียดพบว่า ส่วนของ อบจ. จำนวน 76 แห่ง มีประชากร 60 ล้านคน ได้รับงบ 2.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ กทม. ได้รับจัดสรร 2.8 หมื่นล้านบาท มีคน 5 ล้านคน ทั้งที่งบท้องถิ่นคาดหวังว่าจะได้รับจัดสรรเต็ม ร้อยละ 35 แต่ได้เพียง ร้อยละ 29 ดังนั้นขอให้นายกฯ คนที่ไหว้สวยที่สุดในประเทศ นำงบกลาง 1.7 แสนล้านบาท จัดสรรให้กับท้องถิ่นเพิ่มได้หรือไม่ หากให้ได้ท้องถิ่นมีงบ ร้อยละ 35 เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ดูแลราษฎรในพื้นที่ดีกว่านี้

“สิ่งที่น่าช้ำใจกับคนท้องถิ่น และ อบจ. คือ งบปี 2567 ได้รับถ่ายโอน รพ.สต. 4,276 แห่ง 62 อบจ.รับแล้ว ทั้งนี้มีสัดส่วนเงินอุดหนุน เพียงขนาดเล็ก 4 แสน ขนาดกลาง 6 แสนบาท ขนาดใหญ่ 1 ล้านบาท จากเดิมที่ระบุว่าจะให้งบประมาณมากกว่าจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ขอให้นำสูตรการจัดสรรงบประมาณ ส่วนท้องถิ่นของผมไปใช้จากเดิมที่แบ่งส่วนให้ท้องถิ่น ร้อยละ 29.1 ส่วนกลาง ร้อยละ 70.9 ขอให้เปลี่ยนแปลงสูตร ให้ท้องถิ่น ร้อยละ 40 ส่วนกลาง ร้อยละ 60 เพื่อให้คนท้องถิ่นรักนายกรัฐมนตรี” นายชัยชนะ กล่าว.