จากกรณีที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ มอบหมายให้คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผอ.ส่วนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของนายวิทวัส สุคันธรส ผอ.ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าควบคุมตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) จำเลยรายสำคัญในคดีทุจริตบริษัท สตาร์คฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและสิทธิผู้ต้องหา ก่อนจะควบคุมตัวไปยังอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เพื่อนำตัวส่งให้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีและสอบปากคำตามขั้นตอนภายใน 48 ชม. ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า สำหรับกระบวนการภายหลังการรับตัวนายชนินทร์ (ผู้ต้องหา) หากมีการทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้นเรียบร้อยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็จะไม่ต้องคุมตัวผู้ต้องหาไปทำบันทึกการจับกุมที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 4 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ แต่สามารถนำตัวไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำที่ห้องสอบสวน กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น 8 ได้ทันที อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวนายชนินทร์ 48 ชม. ทำให้ในวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย. จึงจะสามารถนำตัวนายชนินทร์ พร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติมนำส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ ณ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อพนักงานอัยการส่งฟ้องต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก ตามขั้นตอน ทั้งนี้ ในจำนวน 11 ผู้ต้องหาที่ดีเอสไอได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 66 นั้น นายชนินทร์ คือ ผู้ต้องหาเพียงรายเดียวที่หลบหนีหมายจับของศาล และเป็นบุคคลที่ดีเอสไอไม่ได้ตัวมาฟ้องพร้อมกับสำนวน

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ เผยอีกว่า ส่วนประเด็นในการจะใช้สอบปากคำนายชนินทร์ นั้น ตนอยากเรียนว่าผู้ต้องหามีสิทธิจะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ รวมถึงจะปฏิเสธข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนอย่างไรก็ได้ แต่หลักการสืบสวนสอบสวนนั้น เราจะไม่ไปคาดหวังหรือคาดคั้นเอาคำตอบจากผู้ต้องหา เพราะเรามีการรวบรวมพยานหลักฐานมากพอสมควรจนเป็นเหตุเชื่อได้ว่าผู้ต้องหามีการกระทำความผิดตามที่ได้สั่งฟ้องจริง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการเตรียมประเด็นที่จะไว้ใช้สอบปากคำนายชนินทร์แน่นอน อาทิ การตกแต่งงบการเงินของบริษัท สตาร์คฯ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ โถงอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการจับกุมนายชนินทร์ (ผู้ต้องหารายสำคัญ) และตอบคำถามสื่อมวลชน โดยได้รับการยืนยันล่าสุดว่าผู้ต้องหาอยู่ระหว่างเดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยเครื่องบินพาณิชย์ และจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 08.00 น.

ทั้งนี้ สำหรับกรณีคดีนายชนินทร์กับพวกรวม 11 ราย ประกอบด้วย 1.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 2.นายชินวัฒน์ อัศวโภคี 3.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ 4.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม 5.บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น 6.บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด 7.บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด 8.บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 9.บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 10.น.ส.ยสบวร อำมฤต และ 11.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ มีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การยักยอกหรือฉ้อโกงหรือการกระทำโดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และการยักยอกทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (กรณีหุ้น STARK) ซึ่งมีนายชนินทร์เป็นประธานกรรมการบริษัท มีพฤติการณ์ตกแต่งงบการเงินของบริษัทเพื่อแสดงผลการดำเนินการที่ดีและสูงกว่าความเป็นจริง ต้องการให้เป็นที่สนใจของผู้ลงทุน และได้รับผลประโยชน์ ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหามีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542