วันนี้ (15 ก.ค. 67) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานพิธีมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ (เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ) (Automatic External Defibrillator : AED) ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ตามโครงการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับกรมและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ร่วมพิธีโอกาสนี้
นายสุทธิพงษ์ ถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วนำผู้ร่วมพิธี กล่าวถวายพระพรชัยมงคล และร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวอาเศียรวาทราชสดุดี และนำผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา แล้วเป็นประธานมอบเครื่อง AED ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และร่วมร้องเพลงความดีอยู่เหนือสิ่งอื่นใด มีเนื้อหาสะท้อนการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน โดยน้อมนำพระราชดำริตามโครงการจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ดังเช่นการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ ซึ่งประพันธ์คำร้อง ทำนอง เรียบเรียง ขับร้อง โดยสมชาย นิลศรี ดูแลการผลิต โดยนายสุทธิพงษ์ อำนวยการผลิตโดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
ดร.วันดี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมด้วยสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยทั่วประเทศ และพสกนิกรทั่วประเทศ ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดมิได้ จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยดำเนินการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 133 รายการ ครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้จัดพิธีมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัด ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567
“จากการดำเนินโครงการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ดังกล่าว พบว่ายังมีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ “เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED)” ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในภาวะวิกฤติ ที่ต้องเผชิญกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจหยุดเต้น สมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้เล็งเห็นความสำคัญของเครื่อง (AED) และภารกิจในการ “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ดังภารกิจของผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคน จึงได้จัดหา “เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED)” จำนวน 76 เครื่อง เพื่อมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นำไปติดตั้งไว้ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนที่มาใช้บริการในพื้นที่ศาลากลางจังหวัดที่เผชิญกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจหยุดเต้นให้มีโอกาสรอดชีวิต ในห้วงภาวะวิกฤติได้มากยิ่งขึ้นต่อไป และติดตั้งที่กระทรวงมหาดไทย จำนวน 2 เครื่อง รวม 78 เครื่อง” ดร.วันดี กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขออนุโมทนาบุญกับนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ท่านได้ทำให้สมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชีวิตของคนไทย ด้วยพื้นฐานของหัวใจแห่งความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย อุปนายกสมาคมและประธานแม่บ้านมหาดไทยทุกจังหวัด เป็นผู้นำทำให้เกิดคุณูปการต่อชีวิตของคน ด้วยการเอาใจใส่ในการส่งเสริมให้ทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเสมอมา อาทิ การรณรงค์ส่งเสริม ทั้งการคัดแยกขยะ การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน การขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริ “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานไว้เป็นต้นแบบในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้มีอาหารที่เป็นประโยชน์และปลอดสารพิษ และที่สำคัญยังสามารถลดรายจ่ายได้อีกด้วย
“เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้จัดพิธีมอบเครื่องมือแพทย์ในโครงการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในวันนี้ ทุกท่านได้ช่วยกันทำให้เกิดความมั่นใจว่า พี่น้องประชาชนทุกคนที่ไปติดต่อราชการที่ศาลากลางจังหวัด หรือผู้ที่อาจจะเผชิญกับเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะมีเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ “AED” ที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยเหลือและต่อชีวิตให้กับคนที่เคราะห์ร้ายได้ ซึ่งนอกจากจะมีเครื่องนี้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการทำ “CPR” (Cardiopulmonary resuscitation) หรือการปั๊มหัวใจที่จะทำให้ผู้เคราะห์ร้ายมีโอกาสรอดชีวิตได้ ซึ่งแม้ว่าต่อจากนี้ไปเราจะมีเครื่องนี้ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดแล้ว เราต้องหาโอกาสจัดฝึกอบรมให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไป รู้จักวิธีการใช้งานเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ “AED” และการ “CPR” ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นไปตามแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปรารถนาทำให้ประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีชีวิตยืนยาว ดังที่โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ได้กำหนดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมการใช้เครื่อง “AED” ภาคปฏิบัติ โดยมี พลอากาศเอก สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ 904 เป็นผู้ฝึกสอนให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถทำเป็นและได้รู้วิธีการใช้งาน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การดำเนินการของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการมอบเครื่อง AED ในวันนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะต่อยอดทำให้เครื่องเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่ราชการ โรงเรียน หรือชุมชน/หมู่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้คนที่เคราะห์ร้ายมีชีวิตรอดอยู่ได้และมีความสุข จึงขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำความปรารถนาดีของพวกเราไปกับเพื่อนขยายผล ตลอดจนน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปช่วยกันช่วยกันเอาใจใส่ดูแลส่งเสริมให้ครอบครัวคนไทย โดยเฉพาะครอบครัวที่จะมีลูก ได้ดูแลสุขภาพครรภ์ให้มีน้ำหนักตามเกณฑ์ และได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ที่จะส่งผลต่อสติปัญญาและการเจริญเติบโตในระยะยาวของเด็กเหล่านั้น นับเป็นปัญหาระดับชาติ จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำให้เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ช่วยกันทำให้พลเมืองของชาติเต็มไปด้วยคุณภาพ เกิดมาแล้วมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เริ่มตั้งแต่ได้รับการดูแลของแพทย์ ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน ตลอดจนถึงได้รับการเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัว โดยจับมือกับแม่บ้านมหาดไทย องค์กรปกครองส่วยท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเครือข่าย ด้วยการให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพ การเลี้ยงไก่ไข่ให้เด็กรับประทานไข่อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง ซึ่งไข่ไก่ 1 ฟองจะทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ เราทุกคนสามารถนำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดขยายผล ดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสืบสานรักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ด้วยการทำให้ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดที่มีเครื่อง “AED” แล้ว จะได้ขยายผลให้มีเพิ่มตามสถานที่ต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย”
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขับเคลื่อนโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีเป้าหมายผู้ร่วมกิจกรรมทะลุ 1 ล้านคน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดคือผู้นำคนสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้เราจะมีความสุขยิ่งขึ้นไปที่ได้เห็นคนในจังหวัดได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะเป็นการป้องกันเชิงรุก อันนับเป็นการปฏิบัติบูชา และจะเป็นสารตั้งต้นในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะต่อยอดขยายผลไปสู่คนในชุมชนได้” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมนายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอแสดงความยินดีกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ได้มีโอกาสในการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระพระบรมราชานุญาตให้การดำเนินโครงการฯ นี้ เป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ตลอดจนได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประดิษฐาน ไว้บนเครื่อง “AED” และบนกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งการหลอมรวมจิตใจ และน้อมถวายความจงรักภักดี ความมีจิตอาสา เสียสละ โดยไม่หวังผลตอบแทน เพื่อทำสิ่งที่ดีถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข ด้วยการแก้ไขในสิ่งผิด และทำให้เครื่อง AED ได้มีเพียงพอที่จะช่วยเหลือสังคม และในช่วงท้ายนี้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีประจำจังหวัด ได้ดำเนินการต่อยอดขยายผลทำสิ่งที่ดี ทำให้เครื่อง AED เป็นต้นบุญต้นทางให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนมากยิ่งขึ้น ช่วยกันแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พระองค์มีความสุขที่ได้เห็นพสกนิกรของพระองค์มีความสุข อันจะนำไปสู่ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” อย่างยั่งยืน
